วันอังคารที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2561

พรบ.การศึกษา 42

1. พรบ.การศึกษาแห่งชาติ เป็นไปตามบทบัญญัติ
ใน รัฐธรรมนูญพ.ศ. 2540 มาตราใด
ก. 29
ข. 40
ค. 50
ง. 81
2. พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติจัดเป็น
ก. กฎหมายแม่บทการจัดการศึกษา
ข. แนวทางจัดการศึกษาของรัฐ
ค. การปรับปรุงการศึกษาสอดคล้อง
กับรัฐธรรมนูญ
ง. การปฏิรูปการศึกษาครั้งใหญ่ของไทย
3. พรบ.การศึกษาแห่งชาติ ฉบับแรก มีผลบังคับใช้
ตั้งแต่เมื่อใด
ก. 19 สิงหาคม 2542
ข. 20 สิงหาคม 2542
ค. 19 ธันวาคม 2545
ง. 20 ธันวาคม 2545
4. วัตถุประสงค์ของการจัดทำ พระราชบัญญัติ
การศึกษาแห่งชาติ
ก. ปรับปรุงการศึกษาให้สอดคล้องกับความ
เปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจและสังคม
ข. ปฏิรูปการศึกษาของไทย
ค. พัฒนาคนไทยเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์
ทั้งทางร่างกายจิตใจ
ง. พัฒนาศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์
5. พรบ.การศึกษาแห่งชาติ สอดคล้องกับข้อใด
มากที่สุด
ก. แผนพัฒนาเศรษฐกิจ สังคมแห่งชาติ
ข. แผนพัฒนาการศึกษาแห่งชาติ
ค. แผนการศึกษาแห่งชาติ
ง. แผนพัฒนาการศึกษา ศาสนา และ
วัฒนธรรมของกระทรวงศึกษาธิการ
6. ต่อไปนี้ ข้อใดไม่สอดคล้องคำว่าการศึกษา
ก. การถ่ายทอดความรู้
ข. การฝึกอบรม
ค. การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์
ง. การสืบสานทางวัฒนธรรม
7. ข้อใดให้ความหมายไม่ตรงกับ พระราชบัญญัติ
การศึกษาแห่งชาติ
ก. การศึกษาขั้นพื้นฐาน คือการศึกษาก่อน
ระดับอุดมศึกษา
ข. สถานศึกษา คือสถานที่จัดการสอนตั้งแต่
ก่อนประถม ถึงระดับก่อนอุดมศึกษา
ค. มาตรฐานการศึกษา เป็นข้อกำหนดเกี่ยวกับ
คุณลักษณะ คุณภาพที่พึงประสงค์ และ
มาตรฐานที่ต้องการให้เกิดในสถานศึกษา
ทุกแห่ง
ง. กระทรวง หมายความว่ากระทรวงศึกษา
ธิการ
8. ตำแหน่งข้าราชการครูตามข้อใดที่สังกัดต่าง
หน่วยงาน
ก. ครู
ข. คณาจารย์
ค. ผู้บริหารสถานศึกษา
ง. ผู้บริหารการศึกษา
9. ความมุ่งหมายของการจัดการศึกษาตามพระราช
บัญญัติการศึกษาแห่งชาติ
ก. ปรับปรุงการศึกษาให้สอดคล้องกับความ
เปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจและสังคม
ข. ปฏิรูปการศึกษาของไทย
ค. พัฒนาคนให้เป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ทั้งร่างกาย
จิตใจ
ง. พัฒนาศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์
10. ข้อใดไม่ใช่หลักการพระราชบัญญัติการศึกษา
แห่งชาติ พ.ศ. 2542
ก. เป็นการศึกษาขั้นพื้นฐานเพื่อปวงชน
ข. เป็นการศึกษาตลอดชีวิตสำหรับประชาชน
ค. ให้สังคมมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษา
ง. พัฒนา สาระ และกระบวนการเรียนรู้
ให้เป็นไปอย่างต่อเนื่อง
11. ข้อใดไม่สอดคล้องกับการจัดกระบวนการเรียน
รู้ตามความมุ่งหมายของ พรบ.การศึกษาแห่งชาติ
ก. ปลูกฝังจิตสำนึกการเมือง การปกครอง
ระบอบประชาธิปไตยมีพระมหากษัตริย์
เป็นประมุข
ข. รักษา และส่งเสริมสิทธิ หน้าที่ เสรีภาพ
เคารพกฎหมาย
ค. รู้จักรักษาผลประโยชน์ ส่วนรวมของ
ประเทศชาติ
ง. กระจายการพัฒนาไปสู่ชนบทโดยการมี
ส่วนร่วมของภูมิปัญญาท้องถิ่น
12. ข้อใดไม่สอดคล้องการจัดระบบโครงสร้างและ
กระบวนการการจัดการศึกษา
ก. กระจายอำนาจสู่สถานศึกษาทั้งหมด
ข. กำหนดมาตรฐานการศึกษา จัดระบบ
ประกันคุณภาพ
ค. มีหลักการส่งเสริมมาตรฐานวิชาชีพครู
คณาจารย์ และบุคลากรทางการศึกษา
ง. ระดมทรัพยากรจากแหล่งต่าง ๆ มาใช้
ในการจัดการศึกษา
13. คำว่า “เอกภาพด้านนโยบาย หลากหลายในการ
ปฏิบัติ” สอดคล้องกับข้อใด
ก. ส่วนกลางกำหนดนโยบาย ส่วนภูมิภาค
กำหนดแนวทางปฏิบัติ
ข. กระทรวงกำหนดนโยบายมาตรฐาน
สนับสนุนเขตพื้นที่และสถานศึกษาบริหาร
จัดการด้วยตนเอง
ค. มีนโยบายเดียวกัน การปฏิบัติหลากหลายวิธี
ง. ถูกทุกข้อ
14. ต่อไปนี้นี้ ข้อใดไม่กล่าวถึงสิทธิในการจัดการ
ศึกษาขั้นพื้นฐาน
ก. บุคคล
ข. เอกชน
ค. องค์กรปกครองท้องถิ่น
ง. ครู อาจารย์
15. ข้อใดไม่ถูกต้อง เกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ บิดา
มารดา ผู้ปกครอง พึงได้รับในการจัดการศึกษา
ก. การสนับสนุนจากรัฐ ให้ความรู้ความ
สามารถในการอบรมเลี้ยงดู
ข. การยกเว้นเงินภาษีสำหรับค่าใช้จ่ายด้านการ
ศึกษา
ค. เงินอุดหนุนจากรัฐสำหรับการจัดการศึกษา
ขั้นพื้นฐานของคนในการดูแล
ง. การให้การศึกษาแก่บุตรหรือบุคคลในการ
ดูแล
16. จุดที่ต่างกันของการศึกษาในระบบ นอกระบบ
และการศึกษาตามอัธยาศัยที่สำคัญคือข้อใด
ก. ระยะเวลาที่จัดการศึกษา
ข. สถานที่จัดการศึกษา
ค. ตัวผู้เข้ารับการศึกษา
ง. จุดหมาย วิธีการ หลักสูตร
17. ข้อใดไม่ถูกต้องเกี่ยวกับการศึกษาตามอัธยาศัย
ก. สถานศึกษา ต้องจัดการศึกษา ทั้งในระบบ
นอกระบบ และตามอัธยาศัย
ข. ผู้เรียนได้เรียนรู้ด้วยตนเองตามความสนใจ
ศักยภาพ ความพร้อม และโอกาส
ค. จัดการเรียนรู้ได้ในทุกที่ ทุกเวลา
ง. ธรรมชาติ สิ่งแวดล้อมเป็นแหล่งเรียนรู้ได้
18. ต่อไปนี้ ข้อใดไม่ใช่ สถานศึกษาสำหรับปฐมวัย
และการศึกษาขั้นพื้นฐาน
ก. โรงเรียน
ข. ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก
ค. ศูนย์พัฒนาชุมชน
ง. ศูนย์พัฒนาเด็กก่อนเกณฑ์ สถาบันศาสนา
19. ข้อใดไม่ถูกต้องในด้านการกระจายอำนาจให้
เขตพื้นที่และสถานศึกษา
ก. ด้านวิชาการ
ข. งบประมาณ
ค. หลักสูตรการสอน
ง. การบริหารทั่วไป
20. ต่อไปนี้ข้อใดไม่ใช่องค์ประกอบของคณะ
กรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน
ก. ผู้แทนครู
ข. ผู้แทนองค์กรเอกชน
ค. ผู้แทนศิษย์เก่า
ง. ผู้แทนคุณวุฒิ
21. องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีสิทธิ์จัดการศึกษา
ระดับใด
ก. การศึกษาขั้นพื้นฐาน
ข. การศึกษาอุดมศึกษา
ค. การศึกษานอกโรงเรียน
ง. ทุกระดับ
22. หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับระบบประกันคุณภาพ
ภายในได้แก่
ก. สถานศึกษาเท่านั้น
ข. สถานศึกษาและเขตพื้นที่
ค. สถานศึกษา เขตพื้นที่ คณะกรรมการศึกษา
ขั้นพื้นฐาน
ง. สถานศึกษา เขตพื้นที่ คณะกรรมการศึกษา
ขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ
23. ข้อใดไม่ถูกต้อง
ก. ให้มีการประเมินคุณภาพภายนอกครั้งแรก
ใน 5 ปี
ข. สำนักงานรับรองมาตรฐานและประกันคุณ
ภาพการศึกษามีฐานะเป็นองค์กรมหาชน
ค. การประเมินผลคำนึงถึงความมุ่งหมาย
และหลักการจัดการศึกษา
ง. เสนอผลประเมินต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
และสาธารณชน
24. หลักการจัดการศึกษาข้อใด ไม่สอดคล้อง
กับสาระตามพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ
ก. ผู้เรียนทุกคนสามารถเรียนรู้พัฒนาตนเองได้
ข. ครูต้องมีจิตสำนึกที่จะพัฒนาเด็กอย่างเต็ม
ความสามารถ
ค. ผู้เรียนมีความสำคัญที่สุด
ง. ต้องส่งเสริมผู้เรียนพัฒนาตามศักยภาพ
25. ข้อใดสำคัญที่สุดเกี่ยวกับหลักสูตรการศึกษา
ขั้นพื้นฐาน
ก. พัฒนาคุณภาพชีวิตบุคคลให้เหมาะสม
กับวัยตามศักยภาพ
ข. สอดคล้องความต้องการชุมชน
ค. คำนึงถึงภูมิปัญญาท้องถิ่น
ง. เหมาะสมกับความก้าวหน้าด้าน
วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี
26. การจัดการศึกษาที่มีความยืดหยุ่น ในหลักสูตร
วิธีการ การประเมินผลและจุดมุ่งหมาย
ก. การศึกษาในระบบ
ข. การศึกษานอกระบบ
ค. การศึกษาตามอัธยาศัย
ง. การศึกษาเฉพาะทาง
27. ต่อไปนี้ ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้อง
ก. การศึกษาขั้นพื้นฐาน หมายความว่าการ
ศึกษาก่อนระดับอุดมศึกษา
ข. ผู้สอน หมายความว่า ครูและคณาจารย์ใน
สถานศึกษาระดับต่างๆ
ค. กระทรวง หมายความว่ากระทรวงการศึกษา
ง. ครู หมายความว่าบุคลากรวิชาชีพซึ่งทำ
หน้าที่หลักทางด้านการเรียนการสอนและ
ส่งเสริมการเรียนรู้ของผู้เรียนด้วยวิธีการ
ต่างๆ ในสถานศึกษาทั้งของรัฐและเอกชน
28. ข้อใดไม่ใช่หลักการจัดการศึกษาตาม
พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542
ก. เป็นการศึกษาตลอดชีวิตสำหรับประชาชน
ข. ให้สังคมมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษา
ค. การพัฒนาสาระและกระบวนการเรียนรู้
ให้เป็นไปอย่างต่อเนื่อง
ง. การจัดการศึกษาสำหรับบุคคลซึ่งมีความ
บกพร่องทางร่างกาย จิตใจ สติปัญญาอารมณ์ และสังคม
29. พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ ไม่ได้กำหนด
ให้หน่วยงานใดมีสิทธิจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน
ก. หน่วยงานหรือสถานศึกษาของรัฐและเอกชน
ข. มหาวิทยาลัยของรัฐและเอกชน
ค. องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
ง. องค์กรวิชาชีพ สถาบันศาสนา และสถาน
ประกอบการ
30. การจัดระบบโครงสร้างและกระบวนการจัด
การศึกษาให้ยึดหลักอะไรบ้าง
ก. มีเอกภาพด้านนโยบายหลากหลายในการ
ปฏิบัติ
ข. มีการกระจายอำนาจไปสู่เขตพื้นที่การศึกษา
และสถานศึกษา
ค. ระดมทรัพยากรจากแหล่งต่างๆ มาใช้ใน
การจัดการศึกษา
ง. ถูกทุกข้อ
31. ตามพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ ไม่ได้
ในเรื่องใด
ก. สิ่งอำนวยความสะดวกกำหนดสิทธิในการรับการศึกษาสำหรับคนพิการ
ข. สื่อ บริการ
ค. ความช่วยเหลืออื่นใด
ง. เงินอุดหนุนปัจจัยพื้นฐาน
32. จากข้อ 31 รัฐต้องให้ความช่วยเหลือเป็นกี่เท่า
ของเงินทุนด้านสื่อและวัสดุการศึกษาที่จัดสรรให้
แก่เด็กนักเรียนทั่วไปต่อคน
ก. ไม่เกิน 2 เท่า
ข. ไม่เกิน 3 เท่า
ค. ไม่เกิน 4 เท่า
ง. ไม่เกิน 5 เท่า
33. การจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานแบ่งได้เป็น 3 ระดับ
ยกเว้นข้อใด
ก. ระดับก่อนประถมศึกษา
ข. ระดับประถมศึกษา
ค. ระดับมัธยมศึกษา
ง. ระดับก่อนอุดมศึกษา
34. การจัดการศึกษาเพื่อมุ่งวางรากฐานเพื่อให้ผู้เรียน
ได้พัฒนาคุณลักษณะที่พึงประสงค์ทั้งด้านคุณธรรม
จริยธรรม ด้านความรู้ความสามารถขั้นพื้นฐาน
หมายถึงการจัดการศึกษาระดับใด
ก. ระดับก่อนประถมศึกษา
ข. ระดับประถมศึกษา
ค. ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น
ง. ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย
35. การจัดการศึกษาเพื่อพัฒนาผู้เรียนตามความถนัด
ความสนใจ ศักยภาพและความสามารถพิเศษเฉพาะ
ด้าน เพื่อเป็นพื้นฐานสำหรับการศึกษาต่อในระดับ
อุดมศึกษา
ก. ระดับประถมศึกษา
ข. ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น
ค. ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย
ประเภทสามัญศึกษา
ง. ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย
ประเภทอาชีวศึกษา
36. การจัดการศึกษาระดับประถมศึกษาโดยปกติ
ใช้เวลาเรียนกี่ปี
ก. 4 ปี ข. 6 ปี
ค. 9 ปี ง. 12 ปี
37. การนับอายุเด็กเพื่อเข้ารับการศึกษาภาคบังคับ
ในสถานศึกษาขั้นพื้นฐานให้นับตามข้อใด
ก. ครบเจ็ดปีในปีใดนับเด็กอายุย่างเข้าปีที่เจ็ด
ในปีนั้น
ข. นับตามปีงบประมาณ
ค. นับตามปีปฏิทิน
ง. ข้อ ก และ ค ถูกต้อง
38. การจัดการศึกษาระดับใดเป็นการจัดการศึกษา
เพื่อพัฒนาความรู้และทักษะในการประกอบอาชีพ
ให้เป็นกำลังแรงงานที่มีฝีมือหรือการศึกษาต่อระดับ
ในระดับอาชีพชั้นสูงต่อไป
ก. ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น
ข. ระดับมัธยมศึกษาตอนปลายประเภทสามัญศึกษา
ค. ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย
ประเภทอาชีวศึกษา
ง. ระดับที่ต่ำกว่าปริญญา
39. การจัดการศึกษาเพื่อวางรากฐานชีวิตและการเตรียมความพร้อมของเด็กทั้งร่างกายและจิตใจ
สติปัญญาอารมณ์ บุคลิกภาพและการอยู่ร่วมกันในสังคม
ก. การศึกษาระดับก่อนประถมศึกษา
ข. การศึกษาระดับประถมศึกษา
ค. การศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนต้น
ง. การศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย
40. หากเด็กจะเข้าเรียนการศึกษาภาคบังคับในปีการศึกษา 2551 จะต้องเป็นเด็กที่เกิดในปี พ.ศ.ใด
ก. 2541                       ข. 2542
ค. 2543                       ง. 2544




วันเสาร์ที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2561

สื่อและเทคโนโลยี

1. ความสำคัญของสื่อการเรียนการสอนตรงกันข้อใดมากที่สุด
ก. ช่วยให้ผู้สอนสะดวกสบาย
ข. ช่วยให้บทเรียนชัดเจนยิ่งขึ้น
ค. ช่วยลดเวลาสอนของครูให้น้อยลง
ง. ช่วยให้นักเรียนเรียนรู้บรรลุตามวัตถุประสงค์
2. การเขียนแผนการสอนที่เหมาะสมที่สุดจัดลำดับหัวข้ออย่างไร
ก. จุดประสงค์ ความคิดรวบยอด เนื้อหา กิจกรรม
ข. ความคิดรวบยอด จุดประสงค์ เนื้อหากิจกรรม
ค. จุดประสงค์ ความคิดรวบยอด กิจกรรม
ง. ความคิดรวบยอด จุดประสงค์ กิจกรรมเนื้อหา
3. ข้อความใดเป็นความหมายการประเมินผล
ก. สมควร อายุ 29 ปี
ข. สมชาย อยากเรียนวิศวะ
ค. สมหวัง สูง 160 เซนติเมตร
ง. สมเกียรติ สอบได้ 80 คะแนน
4. จุดมุ่งหมายของการวัดผลการศึกษาที่สำคัญที่สุด
ก. ตัดสินได้-ตก
ข. ปรับปรุงการวัดผล
ค. ปรับปรุงการเรียนการสอน
ง. ปรับปรุงหลักสูตรการเรียน
5. จุดมุ่งหมายเชิงพฤติกรรม คือจุดมุ่งหมายที่เป็นอย่างไร
ก. ระบุว่านักเรียนรู้อะไรบ้าง
ข. ระบุว่าพฤติกรรมจะเปลี่ยนไปอย่างไร
ค. ระบุว่านักเรียนจะมีเจตคติที่มีต่อวิชาที่สอน
ง. ระบุพฤติกรรมที่สังเกตและวัดได้ของนักเรียน
6. ข้อใดที่ไม่ใช่ลักษณะของจุดมุ่งหมายเชิงพฤติกรรม
ก. บวกลบเลขคู่และเลขคี่ได้
ข. อธิบายได้ว่าเลขคู่และเลขคี่ต่างกันอย่างไร
ค. ทำแบบฝึกหัดว่าด้วยเรื่องเลขคู่และเลขคี่ได้
ง. เข้าใจในความแตกต่างของเลขคู่และเลขคี่
7. เอด การ์ เดล จัดเอาประสบการณ์ที่เป็นรูปธรรมมากที่สุดไว้ตรงฐานของกรวย เพื่อแสดง
ให้เห็นว่าเป็นประสบการณ์ที่เป็นอย่างไร
ก. เป็นนามธรรมมากที่สุด
ข. จัดได้ง่ายที่สุด
ค. เป็นจริงมากที่สุด
ง. ทำให้เสียเวลาในเรียนน้อยที่สุด
8. ผู้เรียนจะสนใจและอยากเรียนมากขึ้นในเมื่อสิ่งที่เรียนนั้นเป็นอย่างไร
ก. มีความสวยงาม
ข. เคลื่อนไหวได้
ค. ผู้เรียนเคยพบเห็นมาแล้ว
ง. มีความหมายต่อผู้เรียน
9. ข้อใดเป็นการสอนที่ไม่ค่อยเหมาะสม
ก. สอนโดยวิธีแนะให้เด็กรู้จักตนเอง
ข. ให้เด็กมีส่วนรวมในการจัดกิจกรรม
ค. จัดกิจกรรมให้ทุกคนทำเหมือนกัน
ง. จัดให้มีกิจกรรมพัฒนาการของเด็ก
10. การสอนที่ดีคำนึงถึงอะไรเป็นสำคัญ
ก. วัย
ข. เพศ
ค. สิ่งแวดล้อม
ง. ความแตกต่างระหว่างบุคคล
11. การมีหลักและวิธีสอนที่ดีให้ประโยชน์ในเรื่องใด
ก. นักเรียนสนใจเรียน
ข. ประหยัดเวลาในการสอน
ค. นักเรียนเกิดความคิดริเริ่ม
ง. การเรียนการสอนที่มีประสิทธิภาพ
12. ข้อใดไม่ใช่จุดประสงค์ของการจัดบรรยากาศในห้องเรียน
ก. ความสวยงาม
ข. ส่งเสริมการเรียนรู้
ค. มีลักษณะคล้ายบ้านของตน
ง. ส่งเสริมการใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์
13. หลักการสำคัญที่สุดในการจัดห้องเรียนคืออะไร
ก. ความสะอาด
ข. ประโยชน์ใช้สอย
ค. ความเป็นระเบียบ
ง. การพักผ่อนหย่อนใจ
14. บรรยากาศในห้องเรียนหมายถึงอะไร
ก. การจัดตกแต่งห้องเรียน
ข. กิจกรรมการเรียนการสอน
ค. สิ่งแวดล้อมทั้งสิ้นรอบตัวเด็ก
ง. สิ่งของต่าง ๆ ที่มีอยู่ในห้องเรียน
15. ศูนย์ปฐมวัยเป็นการจัดการศึกษาประเภทใด
ก. การศึกษาพิเศษ
ข. การศึกษาส่งเคราะห์
ค. การศึกษานอกโรงเรียน
ง. การศึกษาก่อนระดับประถมศึกษา
16. พลศึกษาควรใช้การวัดผลวิธีใดบ้าง
ก. สังเกต
ข. การปฏิบัติ
ค. แบบทดสอบ
ง. ถูกทุกข้อ
17. กลุ่มสร้างเสริมลักษณะนิสัยการประเมินผลเน้นด้านใด
ก. ความรู้
ข. ความคิด
ค. การปฏิบัติ
ง. ทดสอบภาคปลายภาค
18. กลุ่มการงานพื้นฐานอาชีพจะประเมินผลการปฏิบัติได้ดีที่สุดจากอะไร
ก. ตรวจผลงาน
ข. ตรวจแบบฝึกหัด
ค. ตรวจข้อทดสอบ
ง. สัมภาษณ์
19. ในการจัดลำดับประสบการณ์ของเอดการ์เดลยึดถือหลักในข้อใด
ก. ลักษณะโครงสร้างของสื่อ
ข. ลักษณะความมุ่งหมายของการสอน
ค. ความต่อเนื่องระหว่างประสบการณ์จริงกับนามธรรม
ง. ความแตกต่างระหว่างบุคคล
20. ถ้าท่านสอนเด็กท่านจะใช้สื่อการสอนเพื่อเหตุผลในข้อใด
ก. ทำให้คุณภาพของการเรียนรู้ดีขึ้น
ข. ทำให้ผู้เรียนสนใจบทเรียนมากขึ้น
ค. ทำให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมในการเรียนมากขึ้น
ง. ทำให้สอนสบายขึ้น
21. ข้อใดเป็นอุปกรณ์ที่ให้ประสบการณ์แก่ผู้เรียนได้ถูกต้องที่สุด
ก. วัตถุของจริง
ข. วัตถุจำลอง
ค. ของตัวอย่าง
ง. ของเลียนแบบ
22. คอร์สแวร์ หมายถึงข้อใด
ก. เครือข่ายการศึกษา
ข. วิธีสอน
ค. หลักสูตรพัฒนาครู
ง. สื่อการเรียนการสอน.
23. การสอนเด็กเป็นรายบุคคลจะใช้ได้ดีเมื่อใด
ก. ชั้นเรียนมีขนาดเล็ก
ข. นักเรียนในชั้นอ่อนมาก
ค. ครูมีเวลามากพอที่จะทำ
ง. ถูกทั้ง 3 ข้อ
24. การสอนคณิตศาสตร์ เรื่องการบวกควรเริ่มอย่างไร
ก. ของจริง ภาพ สัญลักษณ์
ข. ภาพ สัญลักษณ์ ของจริง
ค. สัญลักษณ์ ภาพ ของจริง
ง. ของจริง สัญลักษณ์ ภาพ
25. การสอนภาษาอังกฤษในระดับประถมศึกษามีจุดประสงค์ที่สำคัญเพื่ออะไร
ก. เพื่อให้สามารถใช้พจนานุกรมได้
ข. เพื่อให้เข้าใจความหมายและสามารถใช้คำศัพท์ได้
ค. เพื่อเพิ่มพูนประสบการณ์ทางภาษา
ง. เพื่อให้มีความรู้และทักษะพื้นฐานทางภาษาอังกฤษ
26. แบบทดสอบสัมฤทธิผล ( Achievement test ) ที่สำรวจพื้นฐานของความรู้โดยทั่วไป
คือข้อใด
ก. Mastery test
ข. Survey test
ค. Diagnostic test
ง. Basic test
27. การประเมินผลการเรียนมีความหมายตรงกับข้อใด
ก. การทดสอบความรู้ของนักเรียน
ข. การวัดคุณลักษณะที่พึงประสงค์
ค. การตรวจสอบผลการปฏิบัติงาน
ง. การพิจารณาให้ระดับผลการเรียน
28. จุดมุ่งหมายที่สำคัญของการวัดและประเมินผลการเรียนคือข้อใด
ก. ตัดสินผลการเรียน
ข. ปรับปรุงการเรียนการสอน
ค. ค้นหาข้อบกพร่องของนักเรียน
ง. แจ้งผลการเรียนให้ผู้ปกครองทราบ
29. ข้อใดเป็นการประเมินผลย่อยระหว่างภาคเรียน
ก. Formal Evaluation
ข. Informal Evaluation
ค. Formative Evaluation
ง. Summative Evaluation
30. การประเมินผลระหว่างภาคเรียนมีจุดมุ่งหมายเพื่ออะไร
ก. ตรวจสอบความรู้พื้นฐานของผู้เรียน
ข. ตรวจสอบพัฒนาการของผู้เรียน
ค. ตัดสินผลการเรียน
ง. ปรับปรุงการเรียนการสอน


เฉลย
1.ง 2.ก 3.ง 4. ค 5.ง 6.ง 7.ค 8.ง 9.ค 10.ง 11.ง 12.ก 13.ข 14.ค 15.ง
16.ง 17.ค 18.ก 19.ค 20.ก 21.ก 22.ง 23.ง 24.ก 25.ง 26.ข 27.ง 28.ข 29.ค 30.ข

วันพุธที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2561

งานธุรการและระดมทรัพยากร

1. งานธุรการมีความสำคัญต่อการบริหารงานของโรงเรียนข้อใด
ก. สนับสนุนงานอื่น ๆ ให้ดำเนินการได้ราบรื่น
ข. เป็น เครื่องชี้วัดความสามารถของผู้บริหาร
ค. เป็นการสร้างความเชื่อถือไว้วางใจแก่บุคคลทั่วไป
ง. ถูกทุกข้อ
2. ผู้ที่มีอำนาจและหน้าที่ในการลงชื่ออยู่กำกับหนังสือประทับตราแทนการลงชื่อ
ก. หัวหน้าส่วนราชการระดับแผนก
ข. หัวหน้าส่วนราชการระดับกอง
ค. หัวหน้าส่วนราชการระดับกรม
ง. หัวหน้าส่วนราชการระดับกระทรวง
3. หนังสือที่ต้องปฏิบัติเร็วกว่าปกติเร็วกว่าปกติเท่าที่จะทำได้คือ
ก. ด่วนที่สุด
ข. ด่วนมาก
ค. ด่วน
ง. หนังสือปกติ
4. ในการจัดเก็บหนังสือระหว่างปีของโรงเรียนเรื่องการจัดทำหลักสูตรท้องถิ่น ควรเก็บไว้
ในหมวดใด
ก. หมวดงานการนักเรียน
ข. หมวดงานธุรการ
ค. หมวดงานวิชาการ
ง. หมวดระเบียบ
5. หนังสือที่ได้ปฏิบัติงานเสร็จสิ้นแล้วและเป็นคู่สำเนาที่มีต้นเรื่องจะค้นได้จากที่อื่น จะต้องเก็บ
อย่างน้อยเป็นเวลานานเท่าใด
ก. ไม่น้อยกว่า 10 ปี
ข. ไม่น้อยกว่า 5 ปี
ค. ไม่น้อยกว่า 1 ปี
ง. ต้องเก็บไว้ตลอดไป
6. ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้องในเรื่องงานทะเบียนและการรายงาน
ก. งานทะเบียนและการรายงานจำเป็นจะต้องปฏิบัติควบคู่กันไป
ข. งานทะเบียนเป็นงานอิสระไม่เกี่ยวข้องกับงานใดก็ได้
ค. การรายงานต้องอาศัยงานทะเบียนเป็นหลักจึงจะ
ง. งานทะเบียนและการรายงานไม่มีความสัมพันธ์และเกี่ยวข้องกันเลย
7. ข้อใดคืองานทะเบียนที่เกี่ยวข้องกับบุคลากรของโรงเรียน
ก. สมุดหมายเหตุรายวัน
ข. ระเบียนสะสม
ค. แฟ้มประวัติ
ง. การปฏิบัติและการดำเนินงาน
8. หนังสือราชการมีกี่ชนิด
ก. 4 ชนิด
ข. 5 ชนิด
ค. 6 ชนิด
ง. 7 ชนิด
9. ข้อใดไม่ใช่การการรักษาหนังสือราชการ
ก. การเก็บระหว่างปฏิบัติ
ข. การเก็บเมื่อปฏิบัติเสร็จแล้ว
ค. การเก็บไว้เพื่อใช้ในการวิจัย
ง. การเก็บไว้เพื่อใช้ในการตรวจสอบ
10. ข้อใดเป็นกำหนดเวลาที่เจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบจะทำการสำรวจหนังสือที่ครบอายุการเก็บรั
เพื่อขอทำลายในแต่ละปี
ก. ภายใน 30 วัน หลังจากวันสิ้นปีปฏิทิน
ข. ภายใน 60 วัน หลังจากวันสิ้นปีปฏิทิน
ค. ภายใน 30 วัน หลังจากวันสิ้นปีปฏิทิน
ง. ภายใน 120 วัน หลังจากวันสิ้นปีปฏิทิน
11. ข้อใดไม่ใช่ประโยชน์โดยตรงของอาคารสถานที่โรงเรียน
ก. เป็นที่ประกอบกิจกรรมการเรียนการสอนของโรงเรียน
ข. เป็นที่เก็บวัสดุอุปกรณ์ต่าง ๆ ของโรงเรียน
ค. เป็นที่ประกอบกิจกรรมการบริหารโรงเรียน
ง. เป็นหน่วยเลือกตั้งของชุมชน
12. สถานที่ของโรงเรียนต่อไปนี้ ข้อใดจัดอยู่ในประเภทอาคารเรียน
ก. ส้วม
ข. โรงอาหาร
ค. ห้องวิทยาศาสตร์
ง. เรือนเพาะชำ
13. การจัดเวรยามดูแลอาคารสถานที่ของโรงเรียนอยู่ในขอบข่ายงานใด
ก. การควบคุมดูแลอาคารสถานที่
ข. การวางแผนงาน
ค. การดำเนินงานตามแผน
ง. การประเมินผลการใช้อาคารสถานที่
14. ในการวางแผนเรื่องอาคารสถานที่ ขั้นตอนใดสำคัญที่สุด
ก. การศึกษาสภาพปัจจุบันปัญหาความต้องการ
ข. การวางแผน
ค. การดำเนินงานตามแผน
ง. การวัดและการประเมินผล
15. ข้อใดมีส่วนช่วยให้การดำเนินงานอาคารสถานทีของโรงเรียนเป็นไปโดยสะดวกและราบรื่
มากที่สุด
ก. การควบคุมงานก่อสร้างอาคารเรียนอย่างเข้มงวดรัดกุมที่สุด
ข. การปลูกฝังให้บุคลากรและบุคคลในชุมชนมีความรู้สึกเป็นเจ้าของและหวงแหนโรงเรียน
ค. ความเข้มงวดกวดขันในการควบคุมดูแลอาคารสถานที่ให้เป็นไปตามระเบียบอย่างเคร่งครัด
ง. การแบ่งหน้าที่ให้นักเรียนทุกคนมีส่วนร่วมรับผิดชอบในการดูแลอาคาร
16. สิ่งแวดล้อมที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ ได้แก่ข้อใด
ก. วัฒนธรรม
ข. พลังงาน
ค. การเมือง
ง. การปกครอง
17. ข้อใดเป็นการจัดสิ่งแวดล้อมที่ดีในโรงเรียนคือข้อใด
ก. จัดให้มีแสงสว่างในห้องเรียนอย่างเพียงพอ
ข. จัดน้ำสะอาดให้นักเรียนได้ดื่มตลอดไป
ค. จัดให้มีการระบายอากาศในห้องเรียนอย่างเหมาะสม
ง. ถูกทุกข้อ
18. การป้องกันอุบัติเหตุทางกีฬาในโรงเรียนคือข้อใด
ก. นักเรียนเล่นกีฬาโดยขาดความรู้และทักษะที่ถูกต้อง
ข. นักเรียนไม่ได้ประมาณความสามารถและกำลังของตนเอง
ค. นักเรียน เรียนหรือเล่นโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์
ง. นักเรียนได้รับการฝึกให้สามารถป้องกันหรือช่วยเหลือตนเอง
19. สิ่งต่อไปนี้ข้อใดข้อใด น่าจะ ปลอดภัยที่สุด
ก. พื้นห้องที่ขัดมันมาก ๆ
ข. ราวบันได มุมโตที่กลมบน
ค. เสาบาสเกตบอลที่ไม่ได้ห่อด้วยกระสอบป่าน
ง. สนามเป็นรุมเป็นบ่อ
20. ข้อใดเป็นข้อมูลที่ดีที่สุดในการพัฒนาชุมชน
ก. ข้อมูลที่สรุปจากปีก่อน ๆ
ข. ข้อมูลที่คณะครูรวบรวม
ค. ข้อมูลที่สำรวจใหม่หลาย ๆ วิธี
ง. ข้อมูลจากการสัมมนาผู้ปกครอง
21. วิธีการวิเคราะห์ชุมชนที่ประสบความสำเร็จมาากที่สุด ควรเน้นด้านใดเป็นหลัก
ก. วิสัยทัศน์ชุมชน
ข. แหล่งทรัพยากร
ค. ความต้องการของชุมชน
ง. หลักสูตรและนโยบายรัฐ
22. การจัดการศึกษาของโรงเรียนเพื่อพัฒนาชุมชนจะเน้นด้านใด
ก. การพัฒนาตนเอง
ข. การใช้ทรัพยากรและเทคโนโลยี
ค. การพัฒนาระบบข้อมูล สารสนเทศ
ง. การพัฒนาบุคลากรให้มีความรับผิดชอบ
23. เทคนิคในการสร้างความสัมพันธ์กับชุมชนคือข้อใด
ก. มนุษยสัมพันธ์
ข. การวางแผน
ค. การตัดสินใจ
ง. การประสานงาน
24. กิจกรรมสร้างความสัมพันธ์กับชุมชนในโรงเรียนที่ใช้งบประมาณน้อยแต่มุ่งหวังผลสูง
คือข้อใด
ก. ฝึกอาชีพ
ข. แข่งขันกีฬา
ค. สหกรณ์
ง. ทัศนศึกษาชุมชน
25. บทบาทของผู้บริหารโรงเรียนในการสร้างความสัมพันธ์กับชุมชน คือข้อใด
ก. การสร้างศรัทธาของโรงเรียน
ข. การจัดกิจกรรมสร้างความสัมพันธ์
ค. การพัฒนาอาคารสถานทีให้ร่มรื่น
ง. การเสริมสร้างเกียรติและชื่อเสียงของโรงเรียน
26. การสร้างความสัมพันธ์กับชุมชน ผู้บริหารต้องศึกษาแผนพัฒนาการศึกษาเพื่อประโยชน์ใ
สิ่งใด
ก. กำหนดขั้นตอนดำเนินงาน
ข. กำหนดโครงสร้างของการบริหาร
ค. กำหนดภารกิจของการจัดการศึกษา
ง. กำหนดแนวทางในการจัดการศึกษา
27. บุคคลากรในโรงเรียนทีมีส่วนสนับบสนุนการสร้างความสัมพันธ์กับชุมชนได้ดีที่สุด
ก. ผู้บริหาร
ข. ครู
ค. นักการภารโรง
ง. ทุกคนช่วยกัน
28. การสร้างวิสัยทัศน์ในการสร้างความสัมพันธ์กับชุมชนจะเป็นประโยชน์สำหรับผู้บริหาร
ในด้านใด
ก. เห็นความสำคัญของชุมชนมากขึ้น
ข. ทราบทรัพยากรในชุมชน
ค. เห็นความสำคัญของชุมชนที่ร่วมบริหาร
ง. เห็นว่าชุมชนเป็นปัจจัยในการสร้างเจริญของโรงเรียน
29. การบริหารงานความสัมพันธ์กับชุมชน จำเป็นต้องวิเคราะห์ชุมชนด้วยจุดประสงค์ใด
ก. ลดงบประมาณทางราชการ
ข. ทดแทนงบประมาณ
ค. สำรวจหาทรัพยากรในชุมชน
ง. บริหารโรงเรียนให้เป็นศูนย์พัฒนา
30. ทรัพยากรในชุมชนมีความสำคัญต่อผู้บริหารโรงเรียนในด้านใด
ก. สร้างความร่วมมือ
ข. ทดแทนงบประมาณ
ค. ชุมชนร่วมรับผิดชอบ
ง. ชุมชนมีทรัพยากร



เฉลย
1. ก                 2.ข                     3. ข
4. ค                 5. ค                    6.ง
7. ค                 8.ค                     9. ค
10.ข                11.ง                   12.ค
13.ก                 14.ค                  15.ข
16. ข                17. ง                   18.ง
19.ข                 20.ค                   21.ค
22.ก                23.ก                     24.ง
25.ข                26.ง                      27.ง
28.ง                29.ค                     30.ก

วันจันทร์ที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2561

พรบ.เด็กและผู้พิการ

1. “การศึกษา” ตรงกับข้อใด
ก. กระบวนการเรียนรู้เพื่อความเจริญงอกงามของบุคคล
ข. กระบวนการเรียนรู้เพื่อความเจริญงอกงามของบุคคลและสังคม
ค. กระบวนการสอนเพื่อความเจริญงอกงามของบุคคล
ง. กระบวนการสอนเพื่อความเจริญงอกงามของบุคคลและสังคม
2.ข้อใดต่างจากพวก
ก. ครู
ข. คณาจารย์
ค. ผู้บริหารสถานศึกษา
ง. ผู้บริหารการศึกษา
 3. ข้อใดไม่ถูกต้องในด้านการกระจายอำนาจให้เขตพื้นที่และสถานศึกษา
ก. ด้านวิชาการ
ข. งบประมาณ
ค. หลักสูตรการสอน
ง. การบริหารทั่วไป
4. หน่วยงานใดมีหน้าที่จัดให้มีระบบการประกันคุณภาพภายในสถานศึกษา
ก. หน่วยงานต้นสังกัด
ข. สถานศึกษา
ค. สมศ.
ง. ข้อ ก และข้อ ข
5.การจัดการศึกษาต้องจัดให้บุคคลมีสิทธิและโอกาสเสมอกันในการได้รับการศึกษาอย่างทั่วถึงและมีคุณภาพโดยไม่เก็บค่าใช้จ่ายเป็นระยะเวลาเท่าใด
ก. สิบสองปี
ข. ไม่น้อยกว่าสิบสองปี
ค. เก้าปี
ง. ไม่น้อยกว่าเก้าปี
6.ข้อใดไม่ใช่เด็กที่พึงได้รับการสงเคราะห์
ก. เด็กชายบีไปตามหาเพื่อนไม่มีค่ารถกลับบ้าน
ข. เด็กชายเอกมีผู้ปกครองถูกจาคุก
ค. เด็กชายน้อยต้องดูแลยายที่พิการตามลาพัง
ง. เด็กชายบอยไปเที่ยวงานวัดกับผู้ปกครองแล้วพลัดหลง
7.เด็กชายขาวอายุครบ 18 ปีบริบูรณ์มีร่างกายพิการขาลีบ จะได้รับการสงเคราะห์อีกกี่ปี
ก. ไม่ได้รับการสงเคราะห์ต่อ
ข. ได้รับการสงเคราะห์อีกไม่เกิน 2 ปี
ค. ได้รับการสงเคราะห์อีกไม่เกิน 4 ปี
ง. กี่ปีก็ได้ แต่ไม่เกินอายุครบ 24 ปีบริบูรณ์
8.เด็กที่พึงได้รับการคุ้มครองสวัสดิภาพมีกี่ประเภท
ก. 3 ประเภท
ข. 4 ประเภท
ค. 5 ประเภท
ง. 6 ประเภท
9. การยุยง ส่งเสริม ช่วยเหลือ หรือสนับสนุนให้นักเรียนหรือนักศึกษาฝ่าฝืนระเบียบของโรงเรียนหรือสถานศึกษาและระเบียบที่กาหนดในกฎกระทรวง มีโทษอย่างไร
ก. จำคุกไม่เกินหนึ่งเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท
ข. จำคุกไม่เกินสองเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท
ค. จำคุกไม่เกินสองเดือน หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท
ง. จำคุกไม่เกินสามเดือน หรือปรับไม่เกินสามหมื่นบาท
10.ข้อใดไม่ใช่เด็กที่พึงได้รับการคุ้มครองสวัสดิภาพ
ก. เด็กที่ถูกทารุณกรรม
ข. เด็กที่เสี่ยงต่อการกระทาผิด
ค. เด็กที่อยู่ในสภาพที่จาต้องได้รับการคุ้มครองสวัสดิภาพตามที่กาหนดในกฎกระทรวง
ง. เป็นเด็กที่พึงได้รับการคุ้มครองสวัสดิภาพทุกข้อ
11.คนพิการมีกี่ประเภท
 ก. 9 ประเภท
 ข. 8 ประเภท
 ค. 10 ประเภท
 ง. 7 ประเภท
12.ข้อใดเป็นสิทธิทางการศึกษาของคนพิการ
ก. ได้รับการศึกษาโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายตั้งแต่แรกเกิดหรือพบความพิการจนตลอดชีวิต
ข. ได้รับการศึกษาที่มีมาตรฐานและประกันคุณภาพการศึกษา ที่เหมาะสมกับความต้องการของคนพิการแต่ละประเภทและบุคคล
ค. เลือกบริการทางการศึกษา สถานศึกษา ระบบและรูปแบบการศึกษา โดยคำนึงถึงความสามารถความสนใจ ความถนัด ของบุคคลนั้น
ง. ถูกทุกข้อ
13.การศึกษาสาหรับคนพิการต้องดำเนินการจัดการศึกษาอย่างไร
ก. จัดตั้งแต่พบความพิการ
ข. จัดตั้งแต่แรกเกิด
ค.จัดมีสิทธิเท่ากับคนปกติ
ง. ถูกทั้ง ก และ ข
14.ข้อใดไม่เป็นสิ่งอานวยความสะดวกที่คนพิการมีสิทธิขอยืม
ก. โปรแกรมคอมพิวเตอร์ช่วยสอน
ข. โปรแกรมคอมพิวเตอร์อ่านจอภาพ
ค.โปรแกรมคอมพิวเตอร์ขยายภาพทับอักษร
ง. โปรแกรมคอมพิวเตอร์สังเคราะห์เสียง
15.ข้อใดเป็นสื่อที่คนพิการมีสิทธิขอยืม
ก. โปรแกรมคอมพิวเตอร์ช่วยสอน
ข. หนังสือเสียง
ค. ปทานุกรมภาษามือ
ง. ถูกทุกข้อ


เฉลย
1. ตอบ ข. กระบวนการเรียนรู้เพื่อความเจริญงอกงามของบุคคลและสังคม
2. ตอบ ข. คณาจารย์
3. ตอบ ค. หลักสูตรการสอน
4. ตอบ ง. ข้อ ก และข้อ ข
5. ตอบ ไม่น้อยกว่าสิบสองปี
6.ตอบ ก. เด็กชายบีไปตามหาเพื่อนไม่มีค่ารถกลับบ้าน
7.ตอบ ง. กี่ปีก็ได้ แต่ไม่เกินอายุครบ 24 ปีบริบูรณ์
8.ตอบ ก. 3 ประเภท
9. ตอบ ง. จาคุกไม่เกินสามเดือน หรือปรับไม่เกินสามหมื่นบาท
10.ตอบ ง. เป็นเด็กที่พึงได้รับการคุ้มครองสวัสดิภาพทุกข้อ
11.ตอบ ก.9 ประเภท
12.ตอบ ง.ถูกทุกข้อ
13.ตอบ ง.ถูกทั้ง ก และ ข
14.ตอบ ก.โปรแกรมคอมพิวเตอร์ช่วยสอน
15.ตอบ ง.ถูกทุกข้อ

ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการลา พุทธศักราช 2555

1. เกณฑ์ที่ถือว่าลาบ่อยครั้ง สำหรับข้าราชการที่ปฏิบัติราชการในโรงเรียนคือ ลาเกินกี่ครั้งขึ้นไป
ก. 4 ครั้งขึ้นไป
ข. 5 ครั้งขึ้นไป
ค. 6 ครั้งขึ้นไป
 ง. 7 ครั้งขึ้นไป
2. เกณฑ์ถือว่า มาทางานสายเนืองๆ สำหรับข้าราชการที่ปฏิบัติราชการที่โรงเรียนคือการทำงานสายเกินกี่ครั้ง
 ก. 8 ครั้ง
 ข. 9 ครั้ง
 ค. 10 ครั้ง
 ง. 11 ครั้ง
3. เกณฑ์ที่ถือว่า ลาบ่อยครั้ง สำหรับข้าราชการที่ปฏิบัติราชการที่สำนักงานซึ่งไม่ใช่โรงเรียนคือ ลาเกินกี่ครั้งขึ้นไป
ก. 8 ครั้งขึ้นไป
ข. 9 ครั้งขึ้นไป
ค. 10 ครั้งขึ้นไป
ง. 12 ครั้งขึ้นไป
4. เกณฑ์ที่ถือว่า มาทำงานสายเนืองๆ สำหรับข้าราชการที่ปฏิบัติราชการที่สำนักงานซึ่งไม่ใช่โรงเรียน คือมาทำงานสายเกินกี่ครั้ง
 ก. 8 ครั้ง
 ข. 9 ครั้ง
ค. 10 ครั้ง
ง. 11 ครั้ง
5. การลาแบ่งออกเป็นกี่ประเภท
 ก. 8 ประเภท
 ข. 9 ประเภท
 ค. 10 ประเภท
 ง. 11 ประเภท
6. การลาป่วยตั้งแต่กี่วันขึ้นไปต้องมีใบรับรองแพทย์
 ก. 7 วันขึ้นไป
 ข. 15 วันขึ้นไป
 ค. 20 วันขึ้นไป
 ง. 30 วันขึ้นไป
7. ข้าราชการครูมีสิทธิลาคลอดบุตรโดยได้รับเงินเดือนครึ่งหนึ่งได้กี่วัน
ก. 90 วันโดยไม่ต้องมีใบรับรองแพทย์
ข. 45 วันโดยไม่ต้องมีใบรับรองแพทย์
ค. 30 วันโดยไม่ต้องมีใบรับรองแพทย์
ง. 90 วันโดยต้องมีใบรับรองแพทย์
 8. นางน้ำตาล ลาป่วย ตั้งแต่วันที่ 1 – 15 มิถุนายน แต่ปรากฏว่าเมื่อวันที่ 9 มิถุนายน ได้คลอดบุตรจึงให้นับเป็นการลาคลอดบุตรตั้งแต่วันที่
ก. วันที่ 1 มิถุนายน
ข. วันที่ 9 มิถุนายน
ค. วันที่ 10 มิถุนายน
ง. วันที่ 15 มิถุนายน
9. ข้าราชการที่ได้รับหมายเรียกเข้ารับการตรวจเลือกให้รายงานลาต่อผู้บังคับบัญชาก่อนวันเข้ารับการตรวจเลือกไม่น้อยกว่า
ก. ไม่น้อย48 ชั่วโมง
ข. ไม่มาก48 ชั่วโมง
ค. ไม่เกิน48 ชั่วโมง
ง. ภายใน48 ชั่วโมง
10. ข้าราชการที่ลาคลอดบุตรแล้วหากประสงค์จะลากิจส่วนตัวเพื่อเลี้ยงดูบุตร ให้มีสิทธิลาต่อเนื่องจากการลาคลอดบุตรได้ไม่เกินกี่วันทำการ โดยไม่มีสิทธิรับเงินเดือนระหว่างลา
ก. 90 วันทำการ
ข. 120 วันทำการ
ค. 130 วันทำการ
ง. 150 วันทำการ
11. การลาประเภทใดที่ผู้บังคับบัญชามีอำนาจเรียกตัวมาปฏิบัติราชการเมื่อยังไม่ครบกำหนดวันลาก็ได้ ก. ลากิจส่วนตัว
 ข. ลากิจส่วนตัวเพื่อเลี้ยงดูบุตร
ค. ลาป่วย
ง. ลาเข้ารับการตรวจเลือก
12. ข้าราชการครูซึ่งปฏิบัติราชการที่สถานศึกษา ถ้าหากหัวหน้าสถานศึกษาอนุญาตให้หยุดในการหยุดภาคเรียนของนักเรียน ไม่มีสิทธิลาประเภทใด
ก. ลากิจส่วนตัวเพื่อเลี้ยงดูบุตร
ข. ลาพักผ่อน
ค. ลาอุปสมบท
ง. ลาเข้ารับการตรวจเลือก
13. ผู้มีอำนาจพิจารณาอนุญาตให้ข้าราชการครู (สพฐ.) ลาอุปสมบทคือ
ก. ผู้อานวยการโรงเรียน
ข. ผู้อานวยการ สพฐ.
ค. เลขาธิการ
ง. ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ
 14. ผู้อำนวยการสถานศึกษามีอำนาจพิจารณาอนุญาตให้ข้าราชการครูป่วยและลากิจส่วนตัวครั้งหนึ่งได้ตามข้อใด
ก. ลาป่วย 60 วัน ลากิจส่วนตัว 15 วัน
 ข. ลาป่วย 60 วัน ลากิจส่วนตัว 20 วัน
ค. ลาป่วย 90 วัน ลากิจส่วนตัว 30 วัน
 ง. ลาป่วย 60 วัน ลากิจส่วนตัว 30 วัน
15. ผู้ที่จะขออุปสมบทต้องยื่นใบลาก่อนวันอุปสมบทไม่น้อยกว่ากี่วัน
ก. 16 วัน
ข. 30 วัน
ค. 60 วัน
ง. 90 วัน
 16. การลาประเภทใดไม่ต้องรอคำสั่งอนุญาตจากผู้มีอำนาจอนุญาต
ก. ลาไปประกอบพิธีฮัจย์
ข. ลาเข้ารับการตรวจเลือก
ค. ลากิจส่วนตัว
 ง. ลาพักผ่อน
17. ข้าราชการมีสิทธิลาติดตามคู่สมรสได้ไม่เกินกี่ปี
ก. 2 ปี
ข. 3 ปี
 ค. 4 ปี
ง. 5 ปี
18. การนับวันลาตามระเบียบว่าด้วยการลาของข้าราชการ พ.ศ.2555 ให้นับอย่างไร
ก. 1 เมษายน ถึงวันที่ 31 มีนาคมของปีถัดไป
ข. 1 มกราคม ถึงวันที่ 31 ธันวาคม
ค. 1 ตุลาคม ถึงวันที่ 30 กันยายนของปีถัดไป
ง. 1 กรกฎาคม ถึงวันที่ 30 มิถุนายน ของปีถัดไป
19. ผู้ว่าราชการจังหวัดในท้องที่ที่มีอาณาเขตติดต่อกับประเทศใด มีอำนาจอนุญาตให้ข้าราชการในราชการบริหารส่วนภูมิภาคในสังกัดจังหวัดหรืออำเภอนั้นไปประเทศนั้นได้ครั้งละกี่วัน
ก. 3 วัน
ข. 5 วัน
 ค. 7 วัน
 ง. 10 วัน
20. นายสมชายขอลากิจส่วนตัว ตั้งแต่วันที่ 11 มีนาคม 2560 ถึงวันที่ 15 มีนาคม 2560 แต่มีราชการเร่งด่วนผู้อำนวยการโรงเรียนจึงเรียกตัวกลับมาปฏิบัติราชการในวันที่ 13 มีนาคม 2560 โดยนายสมชายออกเดินทางกลับเมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2560 ดังนั้น วันปฏิบัติหน้าที่ราชการของนายสมชาย เริ่มตั้งแต่วันใด
 ก. 12 มีนาคม 2560
ข. 13 มีนาคม 2560
ค. 14 มีนาคม 2560
ง. 15 มีนาคม 2560
21. วันลาตามข้อใดให้นับเฉพาะวันทำการ
ก. ลาป่วย
 ข. ลากิจส่วนตัว
ค. ลาไปช่วยเหลือภริยาที่คลอดบุตร
ง. ถูกทุกข้อ
22. ข้าราชการครูจะได้รับการพิจารณาเลื่อนนั้นเงินเดือนในรอบครึ่งปีที่แล้วมาต้องมีเวลาปฏิบัติราชการกี่เดือน
 ก. 3 เดือน
ข. 4 เดือน
ค. 5 เดือน
ง. 6 เดือน
 23. ในรอบครึ่งปีที่แล้วมาข้าราชการจะได้เลื่อนขั้นเงินเดือน ต้องมีวันลากิจส่วนตัวและลาป่วยไม่เกินกี่วัน
ก. 45 วัน
ข. 46 วัน
ค. 22 วัน
ง. 23 วัน
24. ข้าราชการซึ่งลาเกินจานวนครั้งกี่กำหนด แต่มีผลการปฏิบัติงานดีเด่น ผู้บังคับบัญชาซึ่งมีอานาจสั่งเลื่อนขั้นเงินเดือน อาจพิจารณาผ่อนปรนให้เลื่อนขั้นเงินเดือนได้ถ้าวันลาไม่เกินกี่วันทำการ
ก. 15 วันทำการ
ข. 10 วันทำการ
ค. 7 วันทำการ
ง. 5 วันทำการ
 25. ข้าราชการมาปฏิบัติราชการไม่ได้ เป็นเหตุพฤติการณ์พิเศษจริง ซึ่งให้หยุดราชการ ได้โดย
ก. ถือว่าเป็นการลากิจส่วนตัว
 ข. ไม่นับเป็นวันลา ตามจำนวนวันที่ไม่สามารถมาปฏิบัติราชการได้
ค. สั่งพักราชการ
ง. ถูกทั้ง ก. และ ข
26. ใครมีอำนาจอนุมัติ ให้ผู้อำนวยการสถานศึกษาโรงเรียน ลากิจส่วนตัว
ก. ผู้อำนวยการสถานศึกษาโรงเรียน
ข. ผู้อำนวยการสานักงานเขตพื้นที่การศึกษา
ค. เลขาธิการ กพฐ.
ง. ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ
 27. ตามระเบียบการลา การลากิจต้องเสนอใบลาต่อผู้บังคับบัญชา และเมื่อได้รับอนุญาตแล้วจึงหยุดราชการได้ นายสมชายมีธุระต้องไปรับปริญญาบัตร ได้บอกด้วยวาจากับรองผู้อานวยการสถานศึกษาแล้วหยุดราชการ 3วัน และไม่ส่งใบลากิจแม้ว่า ผู้อำนวยการสถานศึกษา จะเตือนแล้วถึง 3 ครั้ง เช่นนี้นายสมชาย จะมีความผิดกรณีใด
ก. ละทิ้งหน้าที่ราชการโดยไม่มีเหตุอันสมควร
 ข. ไม่ปฏิบัติราชการตามระเบียบแบบธรรมเนียมของทางราชการ
ค. ประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง
ง. รายงานเท็จ
28. การลาประเภทใดต่อไปนี้ถือว่าเป็นการปฏิบัติไม่ถูกต้อง
ก. ลาทางโทรศัพท์
 ข. มายื่นใบลาไม่ได้
 ค. กลับมาแล้วต้องยื่นใบลาตามแบบในวันแรกที่มาปฏิบัติราชการ
ง. ฝากข้อความกับเพื่อนร่วมงาน
29. คุณครูสมชาย ไปส่งลูกเข้าโรงเรียนในช่วงเช้า กลับเข้ามาทางานบ่ายนับเป็นการลากิจหรือไม่
ก. ถือว่าเป็นการลาส่วนตัว
ข. ถือว่าเป็นการลาครึ่งวัน
ค. ถือว่าเป็นการากิจเต็มวัน
ง. ผิดทุกข้อ
30. ข้าราชการที่ถูกเรียกตัวกลับมาปฏิบัติราชการ ระหว่างการลาให้ถือว่าเป็นการลาหมดเขตลงเมื่อใด
 ก. วันก่อนวันเดินทางกลับมาปฏิบัติราชการ
 ข. วันเดินทางกลับมาปฏิบัติราชการ
 ค. วันเข้ารายงานตัวเพื่อกลับเข้าปฏิบัติราชการ
ง. วันปฏิบัติราชการวันแรก




เฉลย

1. ค. 6 ครั้งขึ้นไป
 2. ก. 8 ครั้ง
3. ก. 8 ครั้งขึ้นไป
4. ข. 9 ครั้ง
5. ง. 11 ประเภท
6. ง. 30 วันขึ้นไป
7. ก. 90 วันโดยไม่ต้องมีใบรับรองแพทย์
8. ข. วันที่ 9 มิถุนายน
9. ก. ไม่น้อย48 ชั่วโมง
10. ง. 150 วันทาการ
11. ก. ลากิจส่วนตัว
12. ข. ลาพักผ่อน
13. ค. เลขาธิการ
14. ก. ลาป่วย 60 วัน ลากิจส่วนตัว 15 วัน
15. ค. 60 วัน
16. ข. ลาเข้ารับการตรวจเลือก
17. ค. 4 ปี
18. ค. 1 ตุลาคม ถึงวันที่ 30 กันยายนของปีถัดไป
19. ค. 7 วัน
20. ก. 12 มีนาคม 2560
21. ง. ถูกทุกข้อ
22. ข. 4 เดือน
23. ง.  23 วัน
24. ก. 15 วันทาการ
25. ง. ถูกทั้ง ก. และ ข
26. ข. ผู้อานวยการสานักงานเขตพื้นที่การศึกษา
27. ข. ไม่ปฏิบัติราชการตามระเบียบแบบธรรมเนียมของทางราชการ
28. ข. มายื่นใบลาไม่ได้
29. ข. ถือว่าเป็นการลาครึ่งวัน
30. ข. วันเดินทางกลับมาปฏิบัติราชการ

วันอาทิตย์ที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2561

รัฐธรรมนูญไทย

1. รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย 2560 เป็นรัฐธรรมนูญฉบับที่เท่าใด
ก. 17
ข. 18
ค. 19
ง. 20
 2. รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย 2560 มีผลบังคับตั้งแต่วันที่เท่าใดเป็นต้นไป
 ก. 4 เมษายน พ.ศ. 2560
ข. 5 เมษายน พ.ศ. 2560
ค. 6 เมษายน พ.ศ. 2560
ง. 7 เมษายน พ.ศ. 2560
3. ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย 2560 มีทั้งหมด
 ก. 15 หมวด 279 มาตรา
ข. 16 หมวด 289 มาตรา
ค. 16 หมวด 279 มาตรา
ง. 15 หมวด 289 มาตรา
 4. ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย 2560 ระบุว่าอานาจอธิปไตยเป็นของใคร
 ก. พระมหากษัตริย์
 ข. รัฐสภา
 ค. ปวงชนชาวไทย
ง. ศาลรัฐธรรมนูญ
5. พระมหากษัตริย์ ผู้ทรงใช้อานาจผ่านทางใดบ้าง
 ก. รัฐสภา
 ข. คณะรัฐมนตรี
 ค. ศาล
 ง. ถูกทุกข้อ
6. ให้มีประธานองคมนตรี 1 คน และองคมนตรีอื่นอีกไม่เกินกี่คน
ก. 18 คน
ข. ไม่เกิน18 คน
ค. 20 คน
ง. ไม่เกิน 20 คน
7. บุคคลใดเป็นผู้รับสนองพระบรมราชโองการแต่งตั้งประธานองคมนตรี
ก. ประธานรัฐสภา
ข. พระมหากษัตริย์
ค. ประธานสภาผู้แทนราษฎร
ง. นายกรัฐมนตรี
8. บุคคลใดเป็นผู้รับสนองพระบรมราชโองการแต่งตั้งองคมนตรี
 ก. ประธานรัฐสภา
ข. ประธานศาลรัฐธรรมนูญ
ค. ประธานสภาผู้แทนราษฎร
 ง. ประธานองคมนตรี
 9. ชายและหญิงมีสิทธิและเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรข้อใดถูกต้อง
ก. ชายมีสิทธิและเสรีภาพมากหญิง
ข. หญิงมีสิทธิและเสรีภาพมากชาย
ค. ชายและหญิงมีสิทธิและเสรีภาพมากกว่าคนพิการ
ง. ชายและหญิงมีสิทธิเท่าเทียมกัน
 10. รัฐต้องดาเนินการให้เด็กทุกคนได้รับการศึกษาเป็นเวลากี่ปี
ก. 10 ปี
ข. 12 ปี
ค. 15 ปี
ง. 18 ปี
11.รัฐต้องดาเนินการให้เด็กทุกคนได้รับการศึกษาเป็นเวลาสิบสองปี ตั้งแต่ก่อนวัยเรียนจนจบการศึกษาภาคบังคับอย่างมีคุณภาพโดยไม่เก็บค่าใช้จ่าย ระบุไว้ในมาตราใด
ก. มาตรา 45
 ข.มาตรา 54
ค. มาตรา 56
ง. มาตรา 65
12. บุคคลซึ่งมีอายุตั้งแต่กี่ปีเป็นต้นไปและไม่มีรายได้เพียงพอแก่การยังชีพ และบุคคลผู้ยากไร้ย่อมมีสิทธิได้รับความช่วยเหลือที่เหมาะสมจากรัฐ
ก. 60 ปี
ข. 70 ปี
ค. 75 ปีขึ้นไป
ง. 55 ปี
13.หน้าที่ของปวงชนชาวไทยมาตรา 50 บุคคลมีหน้าที่ ระบุมีกี่ข้อ
ก. 8 ข้อ
ข. 9 ข้อ
ค. 10 ข้อ
ง. 11ข้อ
14.รัฐต้องดาเนินการให้เด็กเล็กได้รับการดูแลและพัฒนาก่อนเข้ารับการศึกษาตามวรรคหนึ่ง ใครมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษา
ก.องค์กรบริหารส่งจังหวัด
ข.องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและภาคเอกชน
ค.ชุมชน
ง.ถูกทุกข้อ
15.ตามกฎหมายว่าด้วยการศึกษาแห่งชาติซึ่งอย่างน้อยต้องมีบทบัญญัติเกี่ยวกับเรื่องใด
ก.การจัดทาแผนพัฒนาการศึกษาแห่งชาติ
ข.การจัดทาแผนการศึกษาแห่งชาติ
ค.การจัดทาแผนพัฒนาเศรษฐกิจสังคมแห่งชาติ
ง.การจัดทาแผนงบประมาณประจาปีของการศึกษา
16.การศึกษาทั้งปวงต้องมุ่งพัฒนาผู้เรียน ข้อใดไม่ถูกต้อง
ก.เป็นคนดี
ข.มีวินัย
ค.สามารถเชี่ยวชาญได้ตามความถนัดของตน
ง.ตลอดจนการศึกษาต่อ
17.ให้จัดตั้งกองทุนเพื่อใช้ในการช่วยเหลือผู้ขาดแคลนทุนทรัพย์ มีวัตถุประสงค์เพื่ออะไร
ก.เพื่อลดความเหลื่อมล้ำในการศึกษา
ข.เพื่อเสริมสร้างและพัฒนาคุณภาพและประสิทธิภาพครู
ค.เพื่อเสริมสร้างและพัฒนาคุณภาพและประสิทธิภาพนักเรียน
ง.ถูก ข้อ ก กับ ข
18.มาตรา 79 รัฐสภาประกอบด้วยสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา ข้อใดกล่าวถูกต้อง
ก.บุคคลจะเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภาในขณะเดียวกันด้วยก็ได้
ข.บุคคลจะเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภาในขณะเดียวกันก็ย่อมได้
ค.บุคคลจะเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภาในขณะเดียวกันมิได้
ง.บุคคลจะเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภาในขณะเดียวกันไม่ได้
19.มาตรา 80 ข้อใดกล่าวถูกต้อง
ก.ประธานสภาผู้แทนราษฎรเป็นรองประธานรัฐสภา ประธานวุฒิสภาเป็นประธานรัฐสภา
ข.ประธานสภาผู้แทนราษฎรเป็นประธานรัฐสภา ประธานวุฒิสภาเป็นประธานรัฐสภา
ค.ประธานสภาผู้แทนราษฎรเป็นประธานรัฐสภา ประธานวุฒิสภาเป็นรองประธานรัฐสภา
ง.ถูกทุกข้อ
20. มาตรา 83 สภาผู้แทนราษฎรประกอบด้วยสมาชิกจำนวนกี่คน
ก. 450 คน
ข. 500 คน
ค. 550 คน
ง. 600 คน
21.ผู้แทนราษฎรสมาชิกซึ่งมาจากการเลือกตั้งแบบแบ่งเขตเลือกตั้งมีจำนวนเท่าใด
ก. 250 คน
ข. 350 คน
ค. 450 คน
ง. 550 คน
22.ผู้แทนราษฎร สมาชิกซึ่งมาจากบัญชีรายชื่อของพรรคการเมืองจำนวนเท่าใด
ก. 150 คน
ข. 250 คน
ค. 350 คน
ง. 450 คน
23.ข้อใดกล่าวถูกต้อง มาตรา 95 บุคคลผู้มีคุณสมบัติดังต่อไปนี้ เป็นผู้มีสิทธิเลือกตั้ง
ก.มีสัญชาติไทย แต่บุคคลผู้มีสัญชาติไทยโดยการแปลงสัญชาติ ต้องได้สัญชาติไทย
มาแล้วไม่น้อยกว่าห้าปี
ข.มีอายุไม่ต่ากว่าสิบแปดปีในวันเลือกตั้ง
ค.มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านในเขตเลือกตั้งมาแล้วเป็นเวลาไม่น้อยกว่าเก้าสิบวันนับถึงวัน
เลือกตั้ง
ง. ถูกทุกข้อ
24.มาตรา 96 บุคคลผู้มีลักษณะดังต่อไปนี้ในวันเลือกตั้ง เป็นบุคคลต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิเลือกตั้ง
ก.เป็นภิกษุ สามเณร นักพรต หรือนักบวช
ข.อยู่ในระหว่างถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งไม่ว่าคดีนั้นจะถึงที่สุดแล้วหรือไม่
ค.ต้องคุมขังอยู่โดยหมายของศาลหรือโดยคาสั่งที่ชอบด้วยกฎหมาย
ง.ถูกทุกข้อ
25.ข้อใดเป็นคุณสมบัติของผู้ที่จะสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
 ก. มีสัญชาติไทยโดยกำเนิด
ข. อายุไม่ต่ำกว่า 25 ปีบริบูรณ์ในวันเลือกตั้ง
ค. เป็นสมาชิกพรรคการเมือง 2 พรรค
ง. เป็นสมาชิกพรรคไม่น้อยกว่า 60 วัน
26.ข้อใดเป็นที่มาของสมาชิกวุฒิสภาที่ถูกต้อง
ก. มาจากการเลือกตั้ง
 ข. มาจากการสรรหา
 ค. มาจากการเลือกตั้ง และ มาจากการสรรหา
ง. ซึ่งมาจากการเลือกกันเอง
27.ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย 2560 ให้มีสมาชิกวุฒิสภากี่คน
ก. 150 คน
ข. 160 คน
 ค. 180 คน
ง. 200 คน
28.สมาชิกวุฒิสภาต้องมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้าม
 ก.มีสัญชาติไทยโดยการเกิด
ข.มีอายุไม่ต่ำกว่าสี่สิบปีในวันสมัครรับเลือก
ค.มีความรู้ ความเชี่ยวชาญ และประสบการณ์ หรือทางานในด้านที่สมัครไม่น้อยกว่าสิบปี
 ง.ถูกทุกข้อ
 29. สมาชิกวุฒิสภามีวาระในการดำรงตำแหน่งคราวละกี่ปี
 ก. 4 ปี
ข. 4 ปีไม่เกิน 2 วาระ
ค. 5 ปีนับแต่วันประกาศผลการเลือก
ง. 6 ปี วาระเดียว
30. พระมหากษัตริย์ทรงแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีอื่นอีกจานวนเท่าไหร่เป็นคณะรัฐมนตรี
ก.ไม่เกิน 35 คนประกอบเป็นคณะรัฐมนตรี
ข.ไม่เกิน 36 คนประกอบเป็นคณะรัฐมนตรี
ค.ไม่เกิน 37 คนประกอบเป็นคณะรัฐมนตรี
 ง.ไม่เกิน 38 คนประกอบเป็นคณะรัฐมนตรี
31.บุคคลใดเป็นผู้รับสนองพระบรมราชโองการแต่งตั้งนายกรัฐมนตรี
ก. ประธานรัฐสภา
 ข. พระมหากษัตริย์
ค. ประธานสภาผู้แทนราษฎร
ง. นายกรัฐมนตรี
32.มาตรา 160 รัฐมนตรีต้องมีคุณสมบัติตามข้อใด
ก.มีสัญชาติไทยโดยการเกิด
ข.มีอายุไม่ต่ำกว่าสามสิบห้าปี
 ค.สำเร็จการศึกษาไม่ต่ากว่าปริญญาตรีหรือเทียบเท่า
ง.ถูกทุกข้อ







เฉลย
1. ง. 20 2.
 ข. 6 เมษายน พ.ศ. 2560
 3. ค. 16 หมวด 279 มาตรา
4. ค. ปวงชนชาวไทย
5. ง. ถูกทุกข้อ
 6. ข. ไม่เกิน 18 คน
 7. ก. ประธานรัฐสภา
8. ง. ประธานองคมนตรี
 9. ง. ชายและหญิงมีสิทธิเท่าเทียมกัน
 10. ข. 12 ปี
11. ข.มาตรา 54
12. ก. 60 ปี
13. ค. 10 ข้อ
14. ข.องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและภาคเอกชน
15. ข.การจัดทาแผนการศึกษาแห่งชาติ
16. ง.ตลอดจนการศึกษาต่อ
17. ง.ถูก ข้อ ก กับ ข
 18. ค.บุคคลจะเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภาในขณะเดียวกันมิได้
19. ค.ประธานสภาผู้แทนราษฎรเป็นประธานรัฐสภา ประธานวุฒิสภาเป็นรองประธานรัฐสภา
20. ข. 500 คน
21. ข. 350 คน
22. ก. 150 คน
 23. ง. ถูกทุกข้อ
24. ง.ถูกทุกข้อ
25. ข. อายุไม่ต่ากว่า 25 ปีบริบูรณ์ในวันเลือกตั้ง
26. ง. ซึ่งมาจากการเลือกกันเอง
27. ง. 200 คน
28. ง.ถูกทุกข้อ
29. ค. 5 ปีนับแต่วันประกาศผลการเลือก
30. ก.ไม่เกิน 35 คนประกอบเป็นคณะรัฐมนตรี
31. ค. ประธานสภาผู้แทนราษฎร
 32. ง.ถูกทุกข้อ

วันเสาร์ที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2561

ข้อสอบอุปมาอุปไมย



1. ศาล : ความยุติธรรม ? : ?
1. ทนายความ : ลูกความ
2. อัยการ : โจทก์
3. วุฒิสภา : ส.ส.
4. รัฐสภา : กฎหมาย
ตอบ 4.
เหตุผล รัฐสภาเป็นสภาที่บัญญัติกฎหมายเช่นเดียวกันกับศาลที่เป็นสถาบันพิจารณาความขัดแย้งเพื่อให้เกิดความยุติธรรม
2. รัสเซีย : หมีขาว ? : ?
1. แคนาดา : นกอินทรีย์
2. สิงค์โปร์ : ปลาโลมา
3. ออสเตรเลีย : จิงโจ้
4. ญี่ปุ่น : สิงโต
ตอบ 3.
เหตุผล จิ้งโจ้เป็นสัญลักษณ์ของประเทศออสเตรเลีย เช่นเดียวกับหมีขาวเป็นสัญลักษณ์ของประเทศรัสเซีย
3. เรือยนต์ : พังงา ? : ?
1. ม้า : บังเหียน
2. เกวียน : วัว
3. รถยนต์ : พวงมาลัย
4. เรือใบ : หางเสือ
ตอบ 3.
เหตุผล รถยนต์เป็นยานพาหนะที่ขับเคลื่อนโดยเครื่องยนต์มีพวงมาลัย เป็นอุปกรณ์บังคัยทิศทาง เช่นเดียวกันกับเรือยนต์เป็นยานพาหนะขับเคลื่อนไปโดยเครื่องยนต์และมีพังงาเป็นอุปกรณ์ในการบังคับทิศทาง (ควบคุมหางเสือ)
4. กระดานดำ : ชอล์ก ? : ?
1. ปากกาเคมี : ไวท์บอร์ด
2. กระดาษ : ดินสอ
3. ดิสเก็ต : โปรแกรมเมอร์
4. บทกลอน : กวี
ตอบ 2.
เหตุผล ดินสอเป็นอุปกรณ์สำหรับเขียน กระดาษเช่นเดียวกันกับชอล์ เป็นอุปกรณ์สำหรับการเขียนกระดานดำ
5. ไฟฉาย : ลูกเสือ ? : ?
1. ตะเกียง : ทหาร
2. ประภาคาร : เรือเดินทะเล
3. เรดาร์ : เครื่องบิน
4. ไต้ : ชาวเขา
ตอบ 4.
เหตุผล ชาวเขาหรือชาวชนบท จะใช้ไต้จุดเป็นแสงสว่างนำทางสำหรับการสัญจรในเวลากลางคืน เช่นเดียวกับลูกเสือ (คน) จะใช้ไฟฉายเป็นอุปกรณ์ส่องสว่างนำทางในเวลากลางคืน
6. ประทุน : เรือแจว ? : ?
1. หลังคา : เสา
2. ใบไม้ : ต้นไม้
3. ร่ม : คน
4. โบสถ์ : พระภิกษุ
ตอบ 3.
เหตุผล ร่มใช้สำหรับกันแดด หรือกันฝนเช่นเดียวกันกับประทุนใช้สำหรับกันแดด หรือกันฝนในเรือ
7. แห : ปลา ? : ?
1. เพนียด : ช้าง
2. สวิง : กุ้ง
3. โพงพาง : นก
4. ลอบ : กระต่าย
ตอบ 2.
เหตุผล สวิงเป็นเครืองมือในการจับกุ้ง (ใช้วิธีช้อนตัก) เช่นเดียวกันกับแห เป็นเครื่องมือในการจับปลา (ใช้วิธีเหวี่ยง)
8. เครื่องบิน : นก ? : ?
1. เรือดำน้ำ : ปลา
2. เรือใบ : ว่าว
3. บอลลูน : ลูกโป่ง
4. จรวด : เครื่องร่อน
ตอบ 1.
เหตุผล เรือดำน้ำเป็นยานพาหนะ ที่สามารถลอยน้ำและดำน้ำได้เหมือนปลา เช่นเดียวกันกับเครื่องบินเป็นยานพาหนะที่สามารถบินอยู่บนท้องฟ้าได้เหมือนนก
9. ดอกไม้ : แจกัน ? : ?
1. สตรีงาม : บุรุษ
2. เกสร : ผีเสื้อ
3. ขวดน้ำ : แก้วน้ำ
4. เทียนไข : เชิงเทียน
ตอบ 4.
เหตุผล เชิงเทียนเป็นที่สำหรับตั้งเทียนไข แจกันเป็นที่สำหรับปักดอกไม้
10. ตำรวจ : ผู้ร้าย ? : ?
1. ครู : นักเรียน
2. โรงสีข้าว : ชาวนา
3. โรงพยาบาล : แพทย์
4. รัฐสภา : กฎหมาย
ตอบ 1.
เหตุผล ครูมีหน้าที่สอนนักเรียนเช่นเดียวกันกับตำรวจมีหน้าที่จับผู้ร้าย
11. สัดส่วน : ร้อยละ ? : ?
1. หน่วยกิต : จำนวน
2. ส่วนประกอบ : เปอร์เซ็นต์
3. โคลง : กลอน
4. มาตรา : สถิติ
ตอบ 3.
เหตุผล สัดส่วนมีความหมายเหมือนกับร้อยละเช่นเดียวกับโคลงที่มีความหมายเหมือนกับกลอน
12. เกวียน : กรรไกร ? : ?
1. เลื่อย : สิ่ว
2. เข็ม : ผ้า
3. หนังสือ : เทียนไข
4. โค : คน
ตอบ 3.
เหตุผล ลักษณะนามที่เหมือนกัน คือ เกวียนกับกรรไกร มีลักษณะนามเป็นเล่มและหนังสือกับ เทียนไข ก็มีลักษณะนามเป็นเล่ม
13. ถุงเท้า : รองเท้า ? : ?
1. เข็มขัด : กระเป๋า
2. ช้อมส้อม : ตะเกียบ
3. แว่นตา : นาฬิกา
4. ตุ้มหู : แหวน
ตอบ 2.
เหตุผล เป็นของใช้ประเภทเดียวกัน คือ ถุงเท้า รองเท้า ใช้กับเท้า และช้อมส้อมกับตะเกียบใช้สำหรับทานอาหาร
14. ห้องครัว : ห้องนอน ? : ?
1. โรงอาหาร : ห้องเรียน
2. ห้องอาหาร : โรงแรม
3. ห้องครัว : แม่บ้าน
4. โภชนาการ : การพักผ่อน
ตอบ 4.
เหตุผล ห้องครัวใช้สำหรับการโภชนาการ ห้องนอนใช้สำหรับการพักผ่อน
15. อำเภอ : หมู่บ้าน ? : ?
1. จังหวัด : ตำบล
2. ปลัดอำเภอ : ผู้ใหญ่บ้าน
3. เมือง : เทศบาล
4. นายอำเภอ : กำนัน
ตอบ 1.
เหตุผล จัวหวัด อำเภอ ตำบล หมู่บ้าน (เรียงตามลำดับจากใหญ่ไปหาเล็ก) อำเภอใหญ่กว่าหมู่บ้าน 2 ระดับ และจังหวัดใหญ่กว่าตำบล 2 ระดับเช่นกัน
16. มั่นคง : ถาวร ? : ?
1. เข้มแข็ง : อดทน
2. รุกราน : คุมคาม
3. แทรกแซง : ขัดข้อง
4. เคลื่อนย้าย : ขัดข้อง
ตอบ 2.
เหตุผล มั่นคงมีความหมายเช่นเดียวกับถาวร เช่นเดียวกับรุกรานกับคุกคาม
17. ขลุ่ย : แคน ? : ?
1. ขิม : จะเข้
2. ปี่ : กลอง
3. ระนาด : โปงลาง
4. อังกะลุง : ฆ้องวง
ตอบ 3.
เหตุผล ขลุ่ยกับแคนเป็นเครื่องดนตรีประเภทเป่า ส่วนระนาดกับโปงลางเป็นเครื่องดนตรีประเภทตี
18. 12 นาฬิกา :18 นาฬิกา ? : ?
1. กรกฎาคม : ธันวาคม
2. เดือน : ปี
3. ปีเถาะ : ปีระกา
4. วันเสาร์ : วันอาทิตย์
ตอบ 3.
เหตุผล 12 นาฬิกา กับ 18 นาฬิกา ห่างกัน 6 ชั่วโมง เช่นเดียวกับ ปีเถาะห่างจากปีระกา 6 ปี
19. ความผิดพลาด : ขาดประสบการณ์ ? : ?
1. ทักษะ : พลาดพลั้ง
2. การฝึกฝน : การประหยัด
3. ความสูญเสีย : ความสะเพร่า
4. ความสำเร็จ : ชัยชนะ
ตอบ 3.
เหตุผล ความผิดพลาดเกิดจากการขาดประสบการณ์ เช่นเดียวกับความสูญเสียซึ่งเกิดขึ้นจากความสะเพร่า
20. ถกเถียง : โต้วาที ? : ?
1. ปรัชญา : จิตวิทยา
2. ท้าทาย : คู่ต่อสู้
3. ความรุนแรง : สันติภาพ
4. การต่อสู้ : การแข่งขัน
ตอบ 4.
เหตุผล การโต้วาที เป็นการถกเถียงอย่างหนึ่ง ส่วนการต่อสู้ก็ถือเป็นการแข่งขันอย่างหนึ่งเช่นกัน
21. ..........อิฐ : วุ่นวาย.............
1. บูรพา : สงบ
2. อุดร : โกลาหล
3. จราจล : พายับ
4. เงียบเหงา : อิสาน
ตอบ 1.
เหตุผล ประจิมกับบูณพา เป็นทิศที่ตรงกันข้าม เช่นเดียวกับวุ่นวายตรงข้ามกับสงบ
22. ..........อังกฤษ : บราซิล..........
1. ฝรั่งเศส : อินเดีย
2. ไทย : ชิลี
3. ฮ่องกง : อาร์เจนตินา
4. ออสเตรเลีย : คูเวต
ตอบ 3.
เหตุผล ฮ่องกงกับอังกฤษเป็นประเทศที่มีลักษณะเป็นเกาะ ส่วนบราซิลกับอาร์เจนตินาไม่มีลักษณะเป็นเกาะ
23. ..........เล็บ : ปอด..........
1. มือ : เท้า
2. กระดูก : กระเพาะอาหาร
3. เส้นผม : หัวใจ
4. จมูก : ปาก
ตอบ 3.
เหตุผล เส้นผมกับเล็บเป็นอวัยวะที่ตัดทิ้งได้โดยไม่เกิดอันตราย ส่วนปอดและหัวใจเป็นอวัยวะที่ไม่สามารถตัดทิ้งได้
24. .............มะระ : ลำไย............
1. ลิ้นจี่ : ส้ม
2. ลูกพลับ : บอระเพ็ด
3. มังคุด : มะยม
4. มะดัน : มะขวิด
ตอบ 2.
เหตุผล ลูกพลับจะมีรสหวาน มะระจะมีรสขม เช่นเดียวกับลำไยจะมีรสหวาน ส่วนบอระเพ็ดจะมีรสขม
25. ...............สะพาน : ภูเขา............
1. แม่น้ำ : ทุ่งนา
2. เกาะ : ท้องฟ้า
3. มนุษย์ : ธรรมชาติ
4. ต้นประดู่ : ทะเล
ตอบ 1.
เหตุผล แม่น้ำจะเกิดขึ้นตามธรรมชาติ ส่วนสะพานเป็นสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้น เช่นเดียวกับภูเขาที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ และทุ่งนาจะเป็นสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้น
26. ...........กรัม : นิ้ว...........
1. น้ำหนัก : ความยาว
2. เมตร : ปอนด์
3. วา : ฟุต
4. เซนติเมตร : ลิตร
ตอบ 2.
เหตุผล เมตรเป็นมาตรวัดความยาว ส่วนกรัมเป็นมาตรวัดน้ำหนัก เช่นเดียวกับ นิ้วเป็นมาตรวัดความยาว และปอนด์เป็นมาตรวัดน้ำหนัก
27. ..........วันทา : หก..............
1. ห้า : กางเขน
2. แปด : สงบ
3. สาม : สนิท
4. เจ็ด : นาฬิกา
ตอบ 1.
เหตุผล วันทา มีตัวอักษร 5 ตัว ส่วนกางเขน มีตัวอักษรอยู่ 6 ตัว
28. ..........เดียวดาย : โทน.........
1. เงียบเหงา : คู่
2. สหาย : สงบ
3. ลำพัง : หนึ่ง
4. ว้าเหว่ : คนเดียว
ตอบ 4.
เหตุผล ว้าเหว่ มีความหมายเหมือนกับเดียวดาย และโทน มีความหมายเช่นเดียวกับคนเดียว
29. ..............ยักษ์ : อวน..........
1. ภิกษุ : ปลา
2. แห : ฤาษี
3. เหาะ : ลาภ
4. ถ้ำ : ทะเล
ตอบ 2.
เหตุผล แห กับอวนเป็นอุปกรณ์ในการจับสัตว์น้ำ ส่วนยักษ์กับฤาษี เป็นตัวละครในวรรณคดีไทย
30. พระธรรม : อักษรกลาง ? : ?
1. สมาธิ : โกรธ
2. กาย : วาจา
3. โลภ : หลง
4. พระพุทธ : อักษรต่ำ
ตอบ 4.
เหตุผล พระธรรมและพระพุทธ เป็นพระรัตนตรัย ในพุทธศาสนาซึ่งมี 3 ประเภท ส่วนอักษรกลางกับอักษรต่ำเป็นอักษรในภาษาไทย ซึ่งมีอยู่ 3 ประเภทเช่นเดียวกัน
31. บาท : เยน ? : ?
1. ดอลล่าร์ : มาร์ค
2. ปอนด์ : ฟรังส์
3. เชน : เพนนี
4. ลีร์ : หยวน
ตอบ 2.
เหตุผล บาทกับเยนเป็นสกุลเงินของประเทศในทวีปเอเชีย ส่วนปอนด์กับฟรังส์เป็นสกุลเงินในประเทศยุโรป
32. ห้า : อาหาร ? : ?
1. หก : เวลา
2. เจ็ด : ชาวนา
3. แปด : จรรยา
4. สี่ : อาทร
ตอบ 4.
เหตุผล อาหารมีอักษร 5 ตัว ส่วนอาทรมีอักษร 4 ตัว
33. ช่างไม้ : ฆ้อน ? : ?
1. นักแต่งเพลง : นักร้อง
2. ปากกา : นักประพันธ์
3. พยาบาล : หมอ
4. จิตรกร : พู่กัน
ตอบ 4.
เหตุผล ค้อนเป็นอุปกรณ์ในการทำงานของช่างไม้ พู่กันเป็นอุปกรณ์ในการทำงานของจิตรกร
34. เครื่องคิดเลข : ลูกคิด ? : ?
1. ดวงอาทิตย์ : นาฬิกา
2. ถุงพลาสติก : ใบตอง
3. ปุ๋ยคอก : ปุ๋ยเคมี
4. ฝ้าย : ด้าย
ตอบ 2.
เหตุผล เครื่องคิดเลยกับลูกคิดใช้ประโยชน์ในการคำนวณเหมือนกัน โดยเครื่องคิดเลขจะเป็นของที่นิยมใช้ในยุคปัจจุบัน เช่นเดียวกับถุงพลาสติกและใบตองที่ใช้ใส่อาหารโดยถุงพลาสติกเป็นของที่นิยมใช้ในปัจจุบัน
35. หมอ : เชื้อโรค ? : ?
1. นักจิตวิทยา : คนไข้
2. ครู : นักเรียน
3. ทนาความ : กฎหมาย
4. ตำรวจ : มิจฉาชีพ
ตอบ 4.
เหตุผล หมอกับตำรวจเป็นมนุษย์ ส่วนเชื้อโรถกับมิจฉาชีพมีลักษณะเป็นสิ่งไม่ดีเช่นเดียวกัน
36. โรงแรม : นักท่องเที่ยว ? : ?
1. พระ : วัด
2. โรงเรียน : ครู
3. ค่ายพักแรม : ลูกเสือ
4. สระว่ายน้ำ : นักว่ายน้ำ
ตอบ 3.
เหตุผล นักท่องเที่ยวพักในโรงแรม ส่วนลูกเสือจะพักในค่าพักแรม
37. เขื่อน : น้ำ ? : ?
1. คลอง : ฝาย
2. ประตู : บ้าน
3. โทรศัพท์ : คลื่นเสียง
4. สวิชต์ : ไฟฟ้า
ตอบ 4.
เหตุผล เขื่อนใช้กักเก็บน้ำ สวัชต์ใช้เปิด ปิด ไฟฟ้า
38. แกรนิต : หิน ? : ?
1. ปลาดุก : น้ำจืด
2. แคลเซียม : ธาตุ
3. เรือ : ทะเล
4. ผงชูรส : เกลือแร่
ตอบ 2.
เหตุผล แกรนิตเป็นชื่อประเภทของหิน ส่วนแคลเซียมเป็นชื่อประเภทของธาตุ
39. มอเตอร์ไซด์ : รถยนต์ ? : ?
1. คน : ควาย
2. จักรยาน : สามล้อ
3. เป็ด : ไก่
4. รถเข็น : รถบรรทุก
ตอบ 2.
เหตุผล มอเตอร์ไซด์กับรถยนต์เป็นพาหนะที่ใช้เครื่องยนต์ ส่วนจักรยานกับสามล้อเป็นพาหนะที่ไม่ใช้เครื่องยนต์
40. พระสงฆ์ : ชี ? : ?
1. บัว : กุหลาบ
2. เบญจมาศ : มะลิ
3. น้า : อา
4. พี่ : น้อง
ตอบ 2.
เหตุผล พระสงฆ์กับชี เป็นบุคคลในพุทธศาสนา โดยพระสงฆ์ห่มผ้าเหลืองส่วนแม่ชีนุ่งผ้าสีขาว เช่นเดียวกับเบญจมาศเป็นดอกไม้ที่มีสีเหลือง และมะลิเป็นดอกไม้ที่มีสีขาว
41. ทางม้าลาย : สะพานลอย ? : ?
1. ถนน : ทางด่วน
2. ทางเท้า : สี่แยก
3. อุโมงค์ : ซอย
4. ที่จอดรถ : อาคาร
ตอบ 1.
เหตุผล ทางม้าลายกับสะพานลอยใช้ข้ามถนน โดยทางม้าลายอยู่ติดพื้น แต่สะพานลอยไม่อยู่ติดพื้นเช่นเดียวกับถนน และทางด่วน ซึ่งใช้เดินทาง โดยถนนอยู่ติดพื้น แต่ทางด่วนไม่อยู่ติดพื้น
42. กวาง : ควาย ? : ?
1. สิงโต : แมว
2. สุนัข : เสือ
3. แรด : หมี
4. ไก่ : เป็ด
ตอบ 1.
เหตุผล กวางเป็นสัตว์ป่า ความเป็นสัตว์เลี้ยง เช่นเดียวกับสิงโตเป็นสัตว์ป่า ส่วนแมวเป็นสัตว์เลี้ยง
43. ไข่ขาว : ไข่แดง ? : ?
1. กรอบรูป : ภาพถ่าย
2. มะม่วง : เมล็ด
3. แก้วน้ำ : สุรา
4. บ้าน : ห้องนอน
ตอบ 2.
เหตุผล ไข่ขาวจะห่อหุ้มไข่แดง โดยเป็นลักษณะของธรรมชาติ เช่นเดียวกับมะม่วงและเมล็ด
44. ตะเกียบ : แขน ? : ?
1. ปากกา : นิ้ว
2. ตา : จมูก
3. หู : ตา
4. ช้อน : มือ
ตอบ 3.
เหตุผล ตะเกียบกับแขนมีลัษณะเป็นคู่ เช่นเดียวกับหูและตา ซึ่งมีลักษณะเป็นคู่เหมือนกัน
45. รัฐศาสตร์ : อักษรศาสตร์ ? : ?
1. ครุศาสตร์ : วิศวกรรมศาสตร์
2. แพทย์ศาสตร์ : เภสัชศาสตร์
3. วิทยาศาสตร์ : นิติศาสตร์
4. สถาปัตยกรรมศาสตร์ : วารสารศาสตร์
ตอบ 2.
เหตุผล รัฐศาสตร์และอักษรศาสตร์เป็นสาขาวิชาทางสังคมศาสตร์ ส่วนแพทย์ศาสตร์และเภสัชศาสตร์เป็นสาขาวิชาทางวิทยาศาสตร์
46. เถาะ : ระกา ? : ?
1. กระต่าย : แมว
2. เมษายน : ตุลาคม
3. ไก่ : กระต่าย
4. มีนาคม : ธันวาคม
ตอบ 2.
เหตุผล เถาะกับระกาเป็นปีนักษัตร ที่ห่างกัน 6 ปี เช่นเดียวกับเมษายนจะห่างจากเดือนตุลาคม 6 เดือน
47. โลก : พระจันทร์ ? : ?
1. นาย : บ่าว
2. ดาวเสาร์ : ดาวพฤหัสบดี
3. ไพร่ : ทาส
4. ดาวศุกร์ : ดาวพุธ
ตอบ 1.
เหตุผล พระจันทร์เป็นบริวารของโลก บ่าวเป็นบริวารของนาย
48. ขวดนม : ผ้าอ้อม ? : ?
1. มุ้ง : เสื้อเชิ้ต
2. นาฬิกา : ยางลบ
3. กรรไกร : ผ้าถุง
4. สำลี : เปล
ตอบ 4.
เหตุผล ขวดนม ผ้าอ้อม สำลี และเปล เป็นอุปกรณ์ที่ใช้สำหรับทารก
49. นมสด : กระสอบ ? : ?
1. เนย : นม
2. แก้วน้ำ : กระป๋อง
3. ขี้ผึ้ง : สมุด
4. ไขมัน : กระดาษ
ตอบ 4.
เหตุผล นมสดและไขมันเป็นผลิตภัณฑ์ที่ยังไม่ได้แปรรูป ส่วนกระสอบและกระดาษเป็นผลิตภัณฑ์ที่แปรรูปแล้ว
50. ภูเขา : ถนน ? : ?
1. ท้องฟ้า : เมฆ
2. สะพาน : แม่น้ำ
3. ทะเล : หาดทราย
4. เพดาน : สนามฟุตบอล
ตอบ 2.
เหตุผล ภูเขามีลักษณะเป็นแนวตั้งเช่นเดียวกับสะพาน ส่วนถนนกับแม่น้ำมีลักษณะเป็นแนวราบ
51. เกาะ : ทะเล ? : ?
1. หาดทราย : ชายฝั่ง
2. ภูเขา : มหาสมุทร
3. ชายฝั่ง : อ่าว
4. ทราย : ทะเลทราย
ตอบ 4.
เหตุผล เกาะเป็นส่วนหนึ่งของทะเล ทรายเป็นส่วนหนึ่งของทะเลทราย
52. ไทย : สิงคโปร์ ? : ?
1. ออสเตรเลีย : นิวซีแลนด์
2. ฝรั่งเศส : อังกฤษ
3. สหรัฐอเมริกา : เม็กซิโก
4. จีน : เนเธอร์แลนด์
ตอบ 2.
เหตุผล ไทยกับฝรั่งเศสเป็นประเทศที่ไม่เป็นเกาะ ส่วนสิงคโปร์กับอังกฤษเป็นเกาะ
53. ทหาร : กองทัพ ? : ?
1. ปลา : แม่น้ำ
2. คน : สโมสร
3. คน : ครอบครัว
4. ตำรวจ : โรงพัก
ตอบ 3.
เหตุผล ทหารเป็นส่วนหนึ่งของกองทัพ และกองทัพไม่เป็นสถานที่ เช่นเดียวกับคนก็เป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว และครอบครัวก็ไม่เป็นสถานที่เช่นเดียวกัน
54. เทียน : ด้าย ? : ?
1. วงกลม : จุดศูนย์กลาง
2. ล้อ : เพลา
3. ดินสอ : กราไฟท์
4. ปากกา : หมึก
ตอบ 3.
เหตุผล ด้ายเป็นไส้ของเทียน ส่วนกราไฟท็เป็นไส้ของดินสอ
55. น้ำ : ออกซิเจน ? : ?
1. โปรตีน : กรดอะมิโน
2. ดิน : ปุ๋ย
3. รถยนต์ : ยาง
4. มนุษย์ : สมอง
ตอบ 1.
เหตุผล ออกซิเจนเป็นองค์ประกอบของน้ำ กรดอะมิโนเป็นองค์ประกอบของโปรตีน
56. หมากรุก : ฟุตบอล ? : ?
1. มวย : บาสเกตบอล
2. สกา : รักบี้
3. ยกน้ำหนัก : ฟันดาบ
4. ว่ายน้ำ : กอล์ฟ
ตอบ 2.
เหตุผล หมากรุกและสกาเป็นกีฬาประเภทเดี่ยว ส่วนฟุตบอลกับรักบี้เป็นกีฬาประเภททีม
57. แปรงสีฟัน : สบู่ ? : ?
1. รองเท้า : ค้อน
2. กระทะ : ช้อน
3. เสื้อผ้า : ไขควง
4. ยาสีฟัน : ยาขัดรองเท้า
ตอบ 4.
เหตุผล เป็นเรื่องของลักษณะการใช้ คือ แปรงสีฟันกับยาสีฟันจะใช้เฉพาะในช่องปาก ส่วนสบู่จะใช้ทั่วทั้งกายภายนอก ยาขัดรองเท้าก็ใช้ทำความสะอาดรองเท้าภายนอกทั้งหมด
58. ครู : ตำรา ? : ?
1. ชาวนา : ที่นา
2. หมอ : ยา
3. ทนาย : ศาล
4. พระ : เทศนา
ตอบ 2.
เหตุผล ตำราเป็นอุปกรณ์การสอนของครู ยาเป็นอุปกรณ์การรักษาของหมอ
59. ภาพยนตร์ : ผู้กำกับการแสดง ? : ?
1. ละคร : ผู้อำนวยการสร้าง
2. โทรทัศน์ : ผู้อำนวยการสถานนี
3. นิตยสาร : ผู้อำนวยการ
4. หนังสือพิมพ์ : บรรณาธิการ
ตอบ 4.
เหตุผล ผู้กำกับการแสดงควบคุมภาพยนตร์ทั้งเรื่อง บรรณาธิการควบคุมหนังสือทั้งเล่ม
60. นิโรธ : สมุทัย ? : ?
1. ทำชั่ว : พูดปด
2. ฆ่าสัตว์ : ผิดลูกผิดเมีย
3. ศีล : ดื่มสุรา
4. ทำบุญ : ทำทาน
ตอบ 2.
เหตุผล นิโรธและสมุทัย อยู่ในอริยสัจ 4 ส่วนฆ่าสัตว์กับผิดลูกผิดเมียอยู่ในศีล 5
61. หลอดภาพ : เสาอากาศ ? : ?
1. เครื่องมือ : การก่อสร้าง
2. ไวโอลีน : เครื่องดนตรี
3. กาแฟ : เครื่องดื่ม
4. เหงือกปลา : ครีบปลา
ตอบ 4.
เหตุผล หลอดภาพกับเสาอากาศเป็นส่วนประกอบของโทรทัศน์ เหงือกปลากับครีบปลาเป็นส่วนประกอบของตัวปลา
62. หน้าต่าง : เพดาน ? : ?
1. ปล่องไฟ : ดาดฟ้า
2. ประตูฟุตบอล : สนาม
3. มุ้งลวด : เหล็กดัด
4. ห้องน้ำ : ห้องครัว
ตอบ 2.
เหตุผล หน้าต่างกับประตูฟุตบอลมีลักษณะเป็นแนวตั้ง เพดานกับสนามมีลักษณะเป็นแนวราบ
63. บะหมี่ : ข้าวผัด ? : ?
1. ลูกชิ้น : ไข่ดาว
2. ข้าวต้ม : ข้าวสวย
3. อาหารว่าง : อาหารหนัก
4. อาหารชาวจีน : อาหารชาวตะวันตก
ตอบ 4.
เหตุผล บะหมี่เป็นอาหารชาวจีน ส่วนข้าวผัดเป็นอาหารชาวตะวันตก
64. สัจจะ : ความเชื่อถือ ? : ?
1. เมตตา : ความอบอุ่น
2. เสียสละ : การพัฒนา
3. กล้าหาย : ความเคารพ
4. ยุติธรรม : ความเลื่อมใส
ตอบ 4.
เหตุผล ความน่าเชื่อถือเป็นผลที่ตามมาของสัจจะ ความเลื่อมใสเป็นผลที่ตามมาของความยุติธรรม
65. หิน : ดิน ? : ?
1. น้ำแข็ง : น้ำ
2. ดักแด้ : ไหม
3. ลูกอ๊อด : กบ
4. ซากสัตว์ : ปุ๋ย
ตอบ 4.
เหตุผล หินเกิดจากการสะสมของดินเป็นเวลานาน (เป็นสิ่งไม่มีชีวิต) ปุ๋ยเกิดจากซากสัตว์ที่สะสมเป็นเวลานาน
66. คน : อาหาร ? : ?
1. ข้าว : หม้อ
2. ครู : เงิน
3. ไม้ : ราก
4. พืช : ปุ๋ย
ตอบ 3.
เหตุผล นกต้องอาศัยรังเป็นที่พักอาศัย รังเป็นเสมือนบ้าน คนจึงคู่กับบ้านจะถูกที่สุด
67. มาก : หลาย ใหญ่ : ?
1. โต
2. ยักษ์
3. ขนาด
4. ไกล
ตอบ 1.
เหตุผล มาก หลาย มีความสัมพันธ์แบบความหมายเหมือนกัน ดังนั้น ใหญ่ มีความหมายเหมือนกับ โ
68. สูง : ต่ำ ขาว : ?
1. ดำ
2. จาง
3. สี
4. เขียว
ตอบ 1.
เหตุผล สูง ต่ำ มีความสัมพันธ์แบบตรงข้ามกัน ดังนั้น ขาว ต้องตรงข้ามกับดำ
69. วิ่งเร็ว :เหนื่อย กินมาก : ?
1. ง่วง
2. อิ่ม
3. อ้วน
4. เรอ
ตอบ 2.
เหตุผล วิ่งเร็ว ผลที่ตามมาคือจะทำให้เหนื่อย เป็นเหตุเป็นผลกัน ดังนั้น กินมาก ก็จะทำให้อิ่ม เป็นคำตอบที่สัมพันธ์กันมากที่สุด
70. เบ็ด : ตกปลา หนังสือ : ?
1. ขาย
2. เรียน
3. เขียน
4. อ่าน
ตอบ 4.
เหตุผล เบ็ด เป็นอุปกรณ์ที่ใช้สำหรับตกปลา ดังนั้น หนังสือจึงมีไว้สำหรับอ่าน
71. วัยเด็ก : วัยรุ่น ? : ?
1. เกิด : ตาย
2. เปิด : ผาน
3. ตูม : บาน
4. ช้า : เร็ว
ตอบ 3.
เหตุผล วันเด็ก นำไปสู่วัยรุ่น เป็นความหมายที่ต่อเนื่อง เป็นระบบ ตรงกับความสัมพันธ์
72. จันทร์ : พุธ มกราคม : ?
1. กุมภาพันธ์
2. มีนาคม
3. พฤษภาคม
4. เดือน
ตอบ 2.
เหตุผล จันทร์เว้นไป 1 วันก็จะเป็นวันพุธ แล้วเดือนมกราคมเว้นไป 1 เดือนก็จะเป็นเดือนมีนาคม
73. โต๊ะ : ตัว ช้าง : ?
1. ต้น
2. พลาย
3. ตน
4. เชือก
ตอบ 4.
เหตุผล ลักษณะนามของโต๊ะ คือ ตัว ลักษณะนามของช้างที่ถูกต้อง คือ เชือก
74. เดิน : กริยา ? : ?
1. กิน : ข้าว
2. เดิน : เท้า
3. เป็ด : นาม
4. แซง : อันตราย
ตอบ 3.
เหตุผล เดิน เป็นคำกริยา คู่ความสัมพันธ์ข้างหน้าเป็นการบอกชนิดของคำ ดังนั้น คู่ความสัมพันธ์หลังต้องมีลักษณะเหมือนกัน
75. แหวน : นิ้ว คอ : ?
1. ผ้า
2. สร้อย
3. เชือก
4. เครื่องราง
ตอบ 2.
เหตุผล เป็นคู่ความสัมพันธ์กัน โดยที่แหวนเป็นเครื่องประดับสำหรับสวมนิ้ว ดังนั้นสร้อยจึงเป็นเครื่องประดับสำหรับคอ
76. ฟุตบอล : เตะ ลูกขนไก่ : ?
1. มือ
2. ตี
3. โยน
4. แร็คเก็ท
ตอบ 2.
เหตุผล เป็นการจับคู่ของสิ่งของเพื่อทำกริยาต่อกัน ฟุตบอลเตะ (เป็นกริยา) ลูกขนไก่ตี (เป็นกริยา)
77. นาง : งาม ? : ?
1. กด : ดัน
2. สาว : งาม
3. ดัน : นัด
4. ยก : ยอ
ตอบ 3.
เหตุผล นาง งาม เป็ฯการสลับตำแหน่งของอักษรและพยัญชนะ ดังนั้นคู่ความสัมพันธ์ หลังต้องสลับตำแหน่งของอักษรและพยัญชนะด้วย
78. ถี่ : ห่าง ละเอียด : ?
1. หยาบ
2. ขรุขระ
3. กระด้าง
4. อ่อนไหว
ตอบ 1.
เหตุผล คู่ความสัมพันธ์ เป็นการเปรียบเทียบคำที่มีความหมายตรงข้ามกัน ดังนั้นละเอียดจึงตรงข้ามกับหยาบ
79. เกยูร : สายสร้อย ดุษฎี : ?
1. ยอม
2. เพื่อน
3. ยอดเยี่ยม
4. ยินดี
ตอบ 4.
เหตุผล คู่ความสัมพันธ์แรกเป็นการบอกความหมายของคำศัพท์ คู่ความสัมพันธ์หลังต้องพิจารณาความสัมพันธ์ให้เหมือนคู่แรก
80. ย่อ : ขยาย สรุป : ?
1. บรรยาย
2. กำหนด
3. ชี้แจง
4. กฎเกณฑ์
ตอบ 1.
เหตุผล เป็นความสัมพันธ์แบบส่วนย่อยไปหาส่วนที่กว้างกว่า ดังนั้นสรุปเป็นส่วนย่อยไปหาส่วนที่กว้างว่าคือ บรรยาย
81. จมูก : กลิ่น ลิ้น : ?
1. ฟัน
2. กลืน
3. เลีย
4. รส
ตอบ 4.
เหตุผล จมูก ใช้รับกลิ่น ลิ้นจึงต้องใช้รับรส
82. เสือ : ป่า ? : ?
1. พี่ : น้อง
2. รถ : ถนน
3. ปลา : น้ำ
4. หญ้า : ดิน
ตอบ 3.
เหตุผล เสือ เป็นสัตว์ที่อาศัยอยู่ในป่า พิจารณาคู่ความสัมพันธ์หลัง จะได้ปลาอาศัยอยู่ในน้ำ
83. ? : เล็ก หน้า :?
1. ใหญ่ : หัว
2. ใหญ่ : หลัง
3. ตัว : ด้าน
4. รูป : บาน
ตอบ 2.
เหตุผล เป็นความสัมพันธ์แบบตรงข้ามกัน คือ ใหญ่ตรงข้ามกับเล็ก หน้าตรงข้ามกับหลัง
84. วิทยุ : โทรทัศน์ เสียง : ?
1. ผู้ชม
2. เครื่องส่ง
3. ละคร
4. ภาพ
ตอบ 4.
เหตุผล วิทยุให้เสียง ดังนั้นโทรทัศน์ต้องสัมพันธ์กับภาพ
85. ความผิดพลาด : ขาดประสบการณ์ ? : ?
1. ทักษะ : พลาดพลั้ง
2. การฝึกฝน : ประหยัด
3. ความสำเร็จ : ชัยชนะ
4. ความสูญเสีย : ความสะเพร่า
ตอบ 4.
เหตุผล การขาดประสบการณ์ ทำให้เราเกิดความผิดพลาด ดังนั้น ความสะเพร่าจะนำมาซึ่งความสูญเสีย
86. ช้าง : มด ? : ?
1. กวาง : เสือ
2. หมี : ผึ้ง
3. ราชสีห์ : หนู
4. หมาป่า : ลูกแกะ
ตอบ 2.
เหตุผล เป็นความสัมพันธ์ของขนาดใหญ่ เล็ก
87. แว่น : ตา ? : ?
1. หวี : ผม
2. กำไร : แขน
3. แหวน : มือ
4. หมวก : ผม
ตอบ 1.
เหตุผล เป็นลักษณะการใช้เครื่องใช้ให้เหมาะสม แว่นไว้ใส่ตา หวีมีไว้หวีผม
88. น้ำ : ออกซิเจน ? : ?
1. ดิน : ปุ๋ย
2. โปรตีน : กรดอะมิโน
3. รถยนต์ : ยาง
4. มนุษย์ : สมอง
ตอบ 2.
เหตุผล น้ำให้ออกซิเจน ดังนั้น คำตอบที่สัมพันธ์กันคือ โปรตีน ให้กรดอะมิโน
89. ครู : ตำรา ? : ?
1. ชาวนา : ที่นา
2. หมอ : ยา
3. ทนาย : ศาล
4. พระ : เทศนา
ตอบ 2.
เหตุผล ครู มีตำราเป็นเครื่องมือถ่ายทอดความรู้ ดังนั้น หมอต้องมียาเป็นเครื่องมือในการรักษาผู้ป่วย
90. มั่นคง : ถาวร ? : ?
1. เข้มแข็ง : อดทน
2. รุกราน : คุกคาม
3. แทรกแซง : ขัดข้อง
4. เคลื่อนย้าย : ขัดข้อง
ตอบ 2.
เหตุผล ลักษณะของความหมายที่เหมือนกัน หรือใกล้เคียงกัน มั่นคง ความหมายคล้ายกับถาวร รุกราน ความหมายคล้ายกับ คุกคาม
91. ขลุ่ย : แคน ? : ?
1. ขิม : ระนาด
2. ปี่ : กลอง
3. ระนาด : โปงลาง
4. อังกะลุง : ฆ้องวง
ตอบ 3.
เหตุผล ขลุ่ย แคน เป็นเครื่องดนตรีสำหรับเป่าเหมือนกัน ระนาด โปงลาง เป็นเครื่องดนตรีสำหรับตีเหมือนกัน
92. นครราชสีมา : นครศรีธรรมราช ? : ?
1. นครสวรรค์ : นครปฐม
2. อุบลราชธานี : อุดรธานี
3. สุรินทร์ : สุราษฎร์ธานี
4. สกลนคร : ชุมพร
ตอบ 3.
เหตุผล จังหวัดหนึ่งในภาคอีกสาน และจังหวัดหนึ่งในภาคใต้
93. ม้า : ล่อ ? : ?
1. สมุด : ปากกา
2. ช้าง : ลา
3. ส้มโอ : ทุเรียน
4. แดง : ส้ม
ตอบ 4.
เหตุผล ล่อ เป็นสัตว์ที่เกิดจากการผสมระหว่างม้า กับลา ดังนั้น ส้มก็เป็นสีที่เกิดจากการผสมของแม่สีคือ แดงและเหลือง
94. น้ำตาล : ขัณฑสกร ? : ?
1. เนย : มาการีน
2. อ้อย : น้ำตาล
3. เครื่องเทศ : พริกไทย
4. ลูกกวาด : ขนมเค้ก
ตอบ 1.
เหตุผล สิ่งแรกเป็นผลิตภัณฑ์ธรรมชาติ สิ่งที่สองมาจากการสังเคราะห์
95. ก : อ ชวด : ?
1. จอ
2. ฉลู
3. กุน
4. มะเมีย
ตอบ 1.
เหตุผล สิ่งแรกกับสิ่งก่อนสุดท้าย
96. น้ำ : ก๊อกน้ำ ? : ?
1. แข็ง : เหลว
2. น้ำมัน : ปัมพ์
3. ครัว : อ่างล้างจาน
4. ประปา : ช่าง
ตอบ 2.
เหตุผล น้ำมาจากก๊อก ขณะที่น้ำมันมาจากปัมพ์
97. เรือ : สมอ รถยนต์ : ?
1. เบรคมือ
2. เบรค
3. พวงมาลัย
4. เกียร์
ตอบ 1.
เหตุผล สิ่งที่ใช้ในการให้เรือและรถยนต์ หยุดนิ่งอยู่กับที่
98. ต้นไม้ : ป่า ? : ?
1. ดอกไม้ : ทุ่งกว้าง
2. หญ้า : สนามหญ้า
3. กบ : บ่อน้ำ
4. คน : ป้ายรถเมล์
ตอบ 2.
เหตุผล หญ้าเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญของสนามหญ้า
99. แกรนิต : หิน ? : ?
1. โปรตีน : เนื้อสัตว์
2. สุนัข : สัตว์เลี้ยง
3. ฮีเลี่ยม : ก๊าซ
4. แคลเซียม : วิตามิน
ตอบ 3.
เหตุผล แกรนิต เป็นหินชนิดหนึ่ง ดังนั้นฮีเลี่ยมก็เป็นก๊าซชนิดหนึ่ง
100. กระติก : ขวดน้ำ ? : ?
1. วิสกี้ : นม
2. เหล็ก : แก้ว
3. ควอต : ลิตร
4. หนังสือ : เอกสารโรเนียว
ตอบ 4.   
เหตุผล คู่แรกเป็นภาชนะทั้งคู่แต่แตกต่างในคุณภาพ คู่หลังเป็นสิ่งพิมพ์ทั้งคู่ที่แตกต่างในคุณภาพ
101. เรือ : ประทุน ? : ?
1. ต้นไม้ : ใบ
2. ปากกา : ปลอก
3. คน : ร่ม
4. หลังคา : บ้าน
ตอบ 3.
เหตุผล เรือ ส่วนที่ป้องกันแดด คือประทุน

พรบ.การศึกษา 42

1. พรบ.การศึกษาแห่งชาติ เป็นไปตามบทบัญญัติ ใน รัฐธรรมนูญพ.ศ. 2540 มาตราใด ก. 29 ข. 40 ค. 50 ง. 81 2. พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติจัดเ...