ใน รัฐธรรมนูญพ.ศ. 2540 มาตราใด
ก. 29
ข. 40
ค. 50
ง. 81
2. พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติจัดเป็น
ก. กฎหมายแม่บทการจัดการศึกษา
ข. แนวทางจัดการศึกษาของรัฐ
ค. การปรับปรุงการศึกษาสอดคล้อง
กับรัฐธรรมนูญ
ง. การปฏิรูปการศึกษาครั้งใหญ่ของไทย
3. พรบ.การศึกษาแห่งชาติ ฉบับแรก มีผลบังคับใช้
ตั้งแต่เมื่อใด
ก. 19 สิงหาคม 2542
ข. 20 สิงหาคม 2542
ค. 19 ธันวาคม 2545
ง. 20 ธันวาคม 2545
4. วัตถุประสงค์ของการจัดทำ พระราชบัญญัติ
การศึกษาแห่งชาติ
ก. ปรับปรุงการศึกษาให้สอดคล้องกับความ
เปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจและสังคม
ข. ปฏิรูปการศึกษาของไทย
ค. พัฒนาคนไทยเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์
ทั้งทางร่างกายจิตใจ
ง. พัฒนาศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์
5. พรบ.การศึกษาแห่งชาติ สอดคล้องกับข้อใด
มากที่สุด
ก. แผนพัฒนาเศรษฐกิจ สังคมแห่งชาติ
ข. แผนพัฒนาการศึกษาแห่งชาติ
ค. แผนการศึกษาแห่งชาติ
ง. แผนพัฒนาการศึกษา ศาสนา และ
วัฒนธรรมของกระทรวงศึกษาธิการ
6. ต่อไปนี้ ข้อใดไม่สอดคล้องคำว่าการศึกษา
ก. การถ่ายทอดความรู้
ข. การฝึกอบรม
ค. การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์
ง. การสืบสานทางวัฒนธรรม
7. ข้อใดให้ความหมายไม่ตรงกับ พระราชบัญญัติ
การศึกษาแห่งชาติ
ก. การศึกษาขั้นพื้นฐาน คือการศึกษาก่อน
ระดับอุดมศึกษา
ข. สถานศึกษา คือสถานที่จัดการสอนตั้งแต่
ก่อนประถม ถึงระดับก่อนอุดมศึกษา
ค. มาตรฐานการศึกษา เป็นข้อกำหนดเกี่ยวกับ
คุณลักษณะ คุณภาพที่พึงประสงค์ และ
มาตรฐานที่ต้องการให้เกิดในสถานศึกษา
ทุกแห่ง
ง. กระทรวง หมายความว่ากระทรวงศึกษา
ธิการ
8. ตำแหน่งข้าราชการครูตามข้อใดที่สังกัดต่าง
หน่วยงาน
ก. ครู
ข. คณาจารย์
ค. ผู้บริหารสถานศึกษา
ง. ผู้บริหารการศึกษา
9. ความมุ่งหมายของการจัดการศึกษาตามพระราช
บัญญัติการศึกษาแห่งชาติ
ก. ปรับปรุงการศึกษาให้สอดคล้องกับความ
เปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจและสังคม
ข. ปฏิรูปการศึกษาของไทย
ค. พัฒนาคนให้เป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ทั้งร่างกาย
จิตใจ
ง. พัฒนาศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์
10. ข้อใดไม่ใช่หลักการพระราชบัญญัติการศึกษา
แห่งชาติ พ.ศ. 2542
ก. เป็นการศึกษาขั้นพื้นฐานเพื่อปวงชน
ข. เป็นการศึกษาตลอดชีวิตสำหรับประชาชน
ค. ให้สังคมมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษา
ง. พัฒนา สาระ และกระบวนการเรียนรู้
ให้เป็นไปอย่างต่อเนื่อง
11. ข้อใดไม่สอดคล้องกับการจัดกระบวนการเรียน
รู้ตามความมุ่งหมายของ พรบ.การศึกษาแห่งชาติ
ก. ปลูกฝังจิตสำนึกการเมือง การปกครอง
ระบอบประชาธิปไตยมีพระมหากษัตริย์
เป็นประมุข
ข. รักษา และส่งเสริมสิทธิ หน้าที่ เสรีภาพ
เคารพกฎหมาย
ค. รู้จักรักษาผลประโยชน์ ส่วนรวมของ
ประเทศชาติ
ง. กระจายการพัฒนาไปสู่ชนบทโดยการมี
ส่วนร่วมของภูมิปัญญาท้องถิ่น
12. ข้อใดไม่สอดคล้องการจัดระบบโครงสร้างและ
กระบวนการการจัดการศึกษา
ก. กระจายอำนาจสู่สถานศึกษาทั้งหมด
ข. กำหนดมาตรฐานการศึกษา จัดระบบ
ประกันคุณภาพ
ค. มีหลักการส่งเสริมมาตรฐานวิชาชีพครู
คณาจารย์ และบุคลากรทางการศึกษา
ง. ระดมทรัพยากรจากแหล่งต่าง ๆ มาใช้
ในการจัดการศึกษา
13. คำว่า “เอกภาพด้านนโยบาย หลากหลายในการ
ปฏิบัติ” สอดคล้องกับข้อใด
ก. ส่วนกลางกำหนดนโยบาย ส่วนภูมิภาค
กำหนดแนวทางปฏิบัติ
ข. กระทรวงกำหนดนโยบายมาตรฐาน
สนับสนุนเขตพื้นที่และสถานศึกษาบริหาร
จัดการด้วยตนเอง
ค. มีนโยบายเดียวกัน การปฏิบัติหลากหลายวิธี
ง. ถูกทุกข้อ
14. ต่อไปนี้นี้ ข้อใดไม่กล่าวถึงสิทธิในการจัดการ
ศึกษาขั้นพื้นฐาน
ก. บุคคล
ข. เอกชน
ค. องค์กรปกครองท้องถิ่น
ง. ครู อาจารย์
15. ข้อใดไม่ถูกต้อง เกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ บิดา
มารดา ผู้ปกครอง พึงได้รับในการจัดการศึกษา
ก. การสนับสนุนจากรัฐ ให้ความรู้ความ
สามารถในการอบรมเลี้ยงดู
ข. การยกเว้นเงินภาษีสำหรับค่าใช้จ่ายด้านการ
ศึกษา
ค. เงินอุดหนุนจากรัฐสำหรับการจัดการศึกษา
ขั้นพื้นฐานของคนในการดูแล
ง. การให้การศึกษาแก่บุตรหรือบุคคลในการ
ดูแล
16. จุดที่ต่างกันของการศึกษาในระบบ นอกระบบ
และการศึกษาตามอัธยาศัยที่สำคัญคือข้อใด
ก. ระยะเวลาที่จัดการศึกษา
ข. สถานที่จัดการศึกษา
ค. ตัวผู้เข้ารับการศึกษา
ง. จุดหมาย วิธีการ หลักสูตร
17. ข้อใดไม่ถูกต้องเกี่ยวกับการศึกษาตามอัธยาศัย
ก. สถานศึกษา ต้องจัดการศึกษา ทั้งในระบบ
นอกระบบ และตามอัธยาศัย
ข. ผู้เรียนได้เรียนรู้ด้วยตนเองตามความสนใจ
ศักยภาพ ความพร้อม และโอกาส
ค. จัดการเรียนรู้ได้ในทุกที่ ทุกเวลา
ง. ธรรมชาติ สิ่งแวดล้อมเป็นแหล่งเรียนรู้ได้
18. ต่อไปนี้ ข้อใดไม่ใช่ สถานศึกษาสำหรับปฐมวัย
และการศึกษาขั้นพื้นฐาน
ก. โรงเรียน
ข. ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก
ค. ศูนย์พัฒนาชุมชน
ง. ศูนย์พัฒนาเด็กก่อนเกณฑ์ สถาบันศาสนา
19. ข้อใดไม่ถูกต้องในด้านการกระจายอำนาจให้
เขตพื้นที่และสถานศึกษา
ก. ด้านวิชาการ
ข. งบประมาณ
ค. หลักสูตรการสอน
ง. การบริหารทั่วไป
20. ต่อไปนี้ข้อใดไม่ใช่องค์ประกอบของคณะ
กรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน
ก. ผู้แทนครู
ข. ผู้แทนองค์กรเอกชน
ค. ผู้แทนศิษย์เก่า
ง. ผู้แทนคุณวุฒิ
21. องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีสิทธิ์จัดการศึกษา
ระดับใด
ก. การศึกษาขั้นพื้นฐาน
ข. การศึกษาอุดมศึกษา
ค. การศึกษานอกโรงเรียน
ง. ทุกระดับ
22. หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับระบบประกันคุณภาพ
ภายในได้แก่
ก. สถานศึกษาเท่านั้น
ข. สถานศึกษาและเขตพื้นที่
ค. สถานศึกษา เขตพื้นที่ คณะกรรมการศึกษา
ขั้นพื้นฐาน
ง. สถานศึกษา เขตพื้นที่ คณะกรรมการศึกษา
ขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ
23. ข้อใดไม่ถูกต้อง
ก. ให้มีการประเมินคุณภาพภายนอกครั้งแรก
ใน 5 ปี
ข. สำนักงานรับรองมาตรฐานและประกันคุณ
ภาพการศึกษามีฐานะเป็นองค์กรมหาชน
ค. การประเมินผลคำนึงถึงความมุ่งหมาย
และหลักการจัดการศึกษา
ง. เสนอผลประเมินต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
และสาธารณชน
24. หลักการจัดการศึกษาข้อใด ไม่สอดคล้อง
กับสาระตามพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ
ก. ผู้เรียนทุกคนสามารถเรียนรู้พัฒนาตนเองได้
ข. ครูต้องมีจิตสำนึกที่จะพัฒนาเด็กอย่างเต็ม
ความสามารถ
ค. ผู้เรียนมีความสำคัญที่สุด
ง. ต้องส่งเสริมผู้เรียนพัฒนาตามศักยภาพ
25. ข้อใดสำคัญที่สุดเกี่ยวกับหลักสูตรการศึกษา
ขั้นพื้นฐาน
ก. พัฒนาคุณภาพชีวิตบุคคลให้เหมาะสม
กับวัยตามศักยภาพ
ข. สอดคล้องความต้องการชุมชน
ค. คำนึงถึงภูมิปัญญาท้องถิ่น
ง. เหมาะสมกับความก้าวหน้าด้าน
วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี
26. การจัดการศึกษาที่มีความยืดหยุ่น ในหลักสูตร
วิธีการ การประเมินผลและจุดมุ่งหมาย
ก. การศึกษาในระบบ
ข. การศึกษานอกระบบ
ค. การศึกษาตามอัธยาศัย
ง. การศึกษาเฉพาะทาง
27. ต่อไปนี้ ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้อง
ก. การศึกษาขั้นพื้นฐาน หมายความว่าการ
ศึกษาก่อนระดับอุดมศึกษา
ข. ผู้สอน หมายความว่า ครูและคณาจารย์ใน
สถานศึกษาระดับต่างๆ
ค. กระทรวง หมายความว่ากระทรวงการศึกษา
ง. ครู หมายความว่าบุคลากรวิชาชีพซึ่งทำ
หน้าที่หลักทางด้านการเรียนการสอนและ
ส่งเสริมการเรียนรู้ของผู้เรียนด้วยวิธีการ
ต่างๆ ในสถานศึกษาทั้งของรัฐและเอกชน
28. ข้อใดไม่ใช่หลักการจัดการศึกษาตาม
พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542
ก. เป็นการศึกษาตลอดชีวิตสำหรับประชาชน
ข. ให้สังคมมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษา
ค. การพัฒนาสาระและกระบวนการเรียนรู้
ให้เป็นไปอย่างต่อเนื่อง
ง. การจัดการศึกษาสำหรับบุคคลซึ่งมีความ
บกพร่องทางร่างกาย จิตใจ สติปัญญาอารมณ์ และสังคม
29. พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ ไม่ได้กำหนด
ให้หน่วยงานใดมีสิทธิจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน
ก. หน่วยงานหรือสถานศึกษาของรัฐและเอกชน
ข. มหาวิทยาลัยของรัฐและเอกชน
ค. องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
ง. องค์กรวิชาชีพ สถาบันศาสนา และสถาน
ประกอบการ
30. การจัดระบบโครงสร้างและกระบวนการจัด
การศึกษาให้ยึดหลักอะไรบ้าง
ก. มีเอกภาพด้านนโยบายหลากหลายในการ
ปฏิบัติ
ข. มีการกระจายอำนาจไปสู่เขตพื้นที่การศึกษา
และสถานศึกษา
ค. ระดมทรัพยากรจากแหล่งต่างๆ มาใช้ใน
การจัดการศึกษา
ง. ถูกทุกข้อ
31. ตามพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ ไม่ได้
ในเรื่องใด
ก. สิ่งอำนวยความสะดวกกำหนดสิทธิในการรับการศึกษาสำหรับคนพิการ
ข. สื่อ บริการ
ค. ความช่วยเหลืออื่นใดง. เงินอุดหนุนปัจจัยพื้นฐาน
32. จากข้อ 31 รัฐต้องให้ความช่วยเหลือเป็นกี่เท่า
ของเงินทุนด้านสื่อและวัสดุการศึกษาที่จัดสรรให้
แก่เด็กนักเรียนทั่วไปต่อคน
ก. ไม่เกิน 2 เท่า
ข. ไม่เกิน 3 เท่า
ค. ไม่เกิน 4 เท่า
ง. ไม่เกิน 5 เท่า
33. การจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานแบ่งได้เป็น 3 ระดับ
ยกเว้นข้อใด
ก. ระดับก่อนประถมศึกษา
ข. ระดับประถมศึกษา
ค. ระดับมัธยมศึกษา
ง. ระดับก่อนอุดมศึกษา
34. การจัดการศึกษาเพื่อมุ่งวางรากฐานเพื่อให้ผู้เรียน
ได้พัฒนาคุณลักษณะที่พึงประสงค์ทั้งด้านคุณธรรม
จริยธรรม ด้านความรู้ความสามารถขั้นพื้นฐาน
หมายถึงการจัดการศึกษาระดับใด
ก. ระดับก่อนประถมศึกษา
ข. ระดับประถมศึกษา
ค. ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น
ง. ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย
35. การจัดการศึกษาเพื่อพัฒนาผู้เรียนตามความถนัด
ความสนใจ ศักยภาพและความสามารถพิเศษเฉพาะ
ด้าน เพื่อเป็นพื้นฐานสำหรับการศึกษาต่อในระดับ
อุดมศึกษา
ก. ระดับประถมศึกษา
ข. ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น
ค. ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย
ประเภทสามัญศึกษา
ง. ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย
ประเภทอาชีวศึกษา
36. การจัดการศึกษาระดับประถมศึกษาโดยปกติ
ใช้เวลาเรียนกี่ปี
ก. 4 ปี ข. 6 ปี
ค. 9 ปี ง. 12 ปี
37. การนับอายุเด็กเพื่อเข้ารับการศึกษาภาคบังคับ
ในสถานศึกษาขั้นพื้นฐานให้นับตามข้อใด
ก. ครบเจ็ดปีในปีใดนับเด็กอายุย่างเข้าปีที่เจ็ด
ในปีนั้น
ข. นับตามปีงบประมาณ
ค. นับตามปีปฏิทิน
ง. ข้อ ก และ ค ถูกต้อง
38. การจัดการศึกษาระดับใดเป็นการจัดการศึกษา
เพื่อพัฒนาความรู้และทักษะในการประกอบอาชีพ
ให้เป็นกำลังแรงงานที่มีฝีมือหรือการศึกษาต่อระดับ
ในระดับอาชีพชั้นสูงต่อไป
ก. ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น
ข. ระดับมัธยมศึกษาตอนปลายประเภทสามัญศึกษา
ค. ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย
ประเภทอาชีวศึกษา
ง. ระดับที่ต่ำกว่าปริญญา
39. การจัดการศึกษาเพื่อวางรากฐานชีวิตและการเตรียมความพร้อมของเด็กทั้งร่างกายและจิตใจ
สติปัญญาอารมณ์ บุคลิกภาพและการอยู่ร่วมกันในสังคม
ก. การศึกษาระดับก่อนประถมศึกษา
ข. การศึกษาระดับประถมศึกษา
ค. การศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนต้น
ง. การศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย
40. หากเด็กจะเข้าเรียนการศึกษาภาคบังคับในปีการศึกษา 2551 จะต้องเป็นเด็กที่เกิดในปี พ.ศ.ใด
ก. 2541 ข. 2542
ค. 2543 ง. 2544
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น