วันอังคารที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2561

พรบ.การศึกษา 42

1. พรบ.การศึกษาแห่งชาติ เป็นไปตามบทบัญญัติ
ใน รัฐธรรมนูญพ.ศ. 2540 มาตราใด
ก. 29
ข. 40
ค. 50
ง. 81
2. พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติจัดเป็น
ก. กฎหมายแม่บทการจัดการศึกษา
ข. แนวทางจัดการศึกษาของรัฐ
ค. การปรับปรุงการศึกษาสอดคล้อง
กับรัฐธรรมนูญ
ง. การปฏิรูปการศึกษาครั้งใหญ่ของไทย
3. พรบ.การศึกษาแห่งชาติ ฉบับแรก มีผลบังคับใช้
ตั้งแต่เมื่อใด
ก. 19 สิงหาคม 2542
ข. 20 สิงหาคม 2542
ค. 19 ธันวาคม 2545
ง. 20 ธันวาคม 2545
4. วัตถุประสงค์ของการจัดทำ พระราชบัญญัติ
การศึกษาแห่งชาติ
ก. ปรับปรุงการศึกษาให้สอดคล้องกับความ
เปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจและสังคม
ข. ปฏิรูปการศึกษาของไทย
ค. พัฒนาคนไทยเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์
ทั้งทางร่างกายจิตใจ
ง. พัฒนาศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์
5. พรบ.การศึกษาแห่งชาติ สอดคล้องกับข้อใด
มากที่สุด
ก. แผนพัฒนาเศรษฐกิจ สังคมแห่งชาติ
ข. แผนพัฒนาการศึกษาแห่งชาติ
ค. แผนการศึกษาแห่งชาติ
ง. แผนพัฒนาการศึกษา ศาสนา และ
วัฒนธรรมของกระทรวงศึกษาธิการ
6. ต่อไปนี้ ข้อใดไม่สอดคล้องคำว่าการศึกษา
ก. การถ่ายทอดความรู้
ข. การฝึกอบรม
ค. การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์
ง. การสืบสานทางวัฒนธรรม
7. ข้อใดให้ความหมายไม่ตรงกับ พระราชบัญญัติ
การศึกษาแห่งชาติ
ก. การศึกษาขั้นพื้นฐาน คือการศึกษาก่อน
ระดับอุดมศึกษา
ข. สถานศึกษา คือสถานที่จัดการสอนตั้งแต่
ก่อนประถม ถึงระดับก่อนอุดมศึกษา
ค. มาตรฐานการศึกษา เป็นข้อกำหนดเกี่ยวกับ
คุณลักษณะ คุณภาพที่พึงประสงค์ และ
มาตรฐานที่ต้องการให้เกิดในสถานศึกษา
ทุกแห่ง
ง. กระทรวง หมายความว่ากระทรวงศึกษา
ธิการ
8. ตำแหน่งข้าราชการครูตามข้อใดที่สังกัดต่าง
หน่วยงาน
ก. ครู
ข. คณาจารย์
ค. ผู้บริหารสถานศึกษา
ง. ผู้บริหารการศึกษา
9. ความมุ่งหมายของการจัดการศึกษาตามพระราช
บัญญัติการศึกษาแห่งชาติ
ก. ปรับปรุงการศึกษาให้สอดคล้องกับความ
เปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจและสังคม
ข. ปฏิรูปการศึกษาของไทย
ค. พัฒนาคนให้เป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ทั้งร่างกาย
จิตใจ
ง. พัฒนาศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์
10. ข้อใดไม่ใช่หลักการพระราชบัญญัติการศึกษา
แห่งชาติ พ.ศ. 2542
ก. เป็นการศึกษาขั้นพื้นฐานเพื่อปวงชน
ข. เป็นการศึกษาตลอดชีวิตสำหรับประชาชน
ค. ให้สังคมมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษา
ง. พัฒนา สาระ และกระบวนการเรียนรู้
ให้เป็นไปอย่างต่อเนื่อง
11. ข้อใดไม่สอดคล้องกับการจัดกระบวนการเรียน
รู้ตามความมุ่งหมายของ พรบ.การศึกษาแห่งชาติ
ก. ปลูกฝังจิตสำนึกการเมือง การปกครอง
ระบอบประชาธิปไตยมีพระมหากษัตริย์
เป็นประมุข
ข. รักษา และส่งเสริมสิทธิ หน้าที่ เสรีภาพ
เคารพกฎหมาย
ค. รู้จักรักษาผลประโยชน์ ส่วนรวมของ
ประเทศชาติ
ง. กระจายการพัฒนาไปสู่ชนบทโดยการมี
ส่วนร่วมของภูมิปัญญาท้องถิ่น
12. ข้อใดไม่สอดคล้องการจัดระบบโครงสร้างและ
กระบวนการการจัดการศึกษา
ก. กระจายอำนาจสู่สถานศึกษาทั้งหมด
ข. กำหนดมาตรฐานการศึกษา จัดระบบ
ประกันคุณภาพ
ค. มีหลักการส่งเสริมมาตรฐานวิชาชีพครู
คณาจารย์ และบุคลากรทางการศึกษา
ง. ระดมทรัพยากรจากแหล่งต่าง ๆ มาใช้
ในการจัดการศึกษา
13. คำว่า “เอกภาพด้านนโยบาย หลากหลายในการ
ปฏิบัติ” สอดคล้องกับข้อใด
ก. ส่วนกลางกำหนดนโยบาย ส่วนภูมิภาค
กำหนดแนวทางปฏิบัติ
ข. กระทรวงกำหนดนโยบายมาตรฐาน
สนับสนุนเขตพื้นที่และสถานศึกษาบริหาร
จัดการด้วยตนเอง
ค. มีนโยบายเดียวกัน การปฏิบัติหลากหลายวิธี
ง. ถูกทุกข้อ
14. ต่อไปนี้นี้ ข้อใดไม่กล่าวถึงสิทธิในการจัดการ
ศึกษาขั้นพื้นฐาน
ก. บุคคล
ข. เอกชน
ค. องค์กรปกครองท้องถิ่น
ง. ครู อาจารย์
15. ข้อใดไม่ถูกต้อง เกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ บิดา
มารดา ผู้ปกครอง พึงได้รับในการจัดการศึกษา
ก. การสนับสนุนจากรัฐ ให้ความรู้ความ
สามารถในการอบรมเลี้ยงดู
ข. การยกเว้นเงินภาษีสำหรับค่าใช้จ่ายด้านการ
ศึกษา
ค. เงินอุดหนุนจากรัฐสำหรับการจัดการศึกษา
ขั้นพื้นฐานของคนในการดูแล
ง. การให้การศึกษาแก่บุตรหรือบุคคลในการ
ดูแล
16. จุดที่ต่างกันของการศึกษาในระบบ นอกระบบ
และการศึกษาตามอัธยาศัยที่สำคัญคือข้อใด
ก. ระยะเวลาที่จัดการศึกษา
ข. สถานที่จัดการศึกษา
ค. ตัวผู้เข้ารับการศึกษา
ง. จุดหมาย วิธีการ หลักสูตร
17. ข้อใดไม่ถูกต้องเกี่ยวกับการศึกษาตามอัธยาศัย
ก. สถานศึกษา ต้องจัดการศึกษา ทั้งในระบบ
นอกระบบ และตามอัธยาศัย
ข. ผู้เรียนได้เรียนรู้ด้วยตนเองตามความสนใจ
ศักยภาพ ความพร้อม และโอกาส
ค. จัดการเรียนรู้ได้ในทุกที่ ทุกเวลา
ง. ธรรมชาติ สิ่งแวดล้อมเป็นแหล่งเรียนรู้ได้
18. ต่อไปนี้ ข้อใดไม่ใช่ สถานศึกษาสำหรับปฐมวัย
และการศึกษาขั้นพื้นฐาน
ก. โรงเรียน
ข. ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก
ค. ศูนย์พัฒนาชุมชน
ง. ศูนย์พัฒนาเด็กก่อนเกณฑ์ สถาบันศาสนา
19. ข้อใดไม่ถูกต้องในด้านการกระจายอำนาจให้
เขตพื้นที่และสถานศึกษา
ก. ด้านวิชาการ
ข. งบประมาณ
ค. หลักสูตรการสอน
ง. การบริหารทั่วไป
20. ต่อไปนี้ข้อใดไม่ใช่องค์ประกอบของคณะ
กรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน
ก. ผู้แทนครู
ข. ผู้แทนองค์กรเอกชน
ค. ผู้แทนศิษย์เก่า
ง. ผู้แทนคุณวุฒิ
21. องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีสิทธิ์จัดการศึกษา
ระดับใด
ก. การศึกษาขั้นพื้นฐาน
ข. การศึกษาอุดมศึกษา
ค. การศึกษานอกโรงเรียน
ง. ทุกระดับ
22. หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับระบบประกันคุณภาพ
ภายในได้แก่
ก. สถานศึกษาเท่านั้น
ข. สถานศึกษาและเขตพื้นที่
ค. สถานศึกษา เขตพื้นที่ คณะกรรมการศึกษา
ขั้นพื้นฐาน
ง. สถานศึกษา เขตพื้นที่ คณะกรรมการศึกษา
ขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ
23. ข้อใดไม่ถูกต้อง
ก. ให้มีการประเมินคุณภาพภายนอกครั้งแรก
ใน 5 ปี
ข. สำนักงานรับรองมาตรฐานและประกันคุณ
ภาพการศึกษามีฐานะเป็นองค์กรมหาชน
ค. การประเมินผลคำนึงถึงความมุ่งหมาย
และหลักการจัดการศึกษา
ง. เสนอผลประเมินต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
และสาธารณชน
24. หลักการจัดการศึกษาข้อใด ไม่สอดคล้อง
กับสาระตามพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ
ก. ผู้เรียนทุกคนสามารถเรียนรู้พัฒนาตนเองได้
ข. ครูต้องมีจิตสำนึกที่จะพัฒนาเด็กอย่างเต็ม
ความสามารถ
ค. ผู้เรียนมีความสำคัญที่สุด
ง. ต้องส่งเสริมผู้เรียนพัฒนาตามศักยภาพ
25. ข้อใดสำคัญที่สุดเกี่ยวกับหลักสูตรการศึกษา
ขั้นพื้นฐาน
ก. พัฒนาคุณภาพชีวิตบุคคลให้เหมาะสม
กับวัยตามศักยภาพ
ข. สอดคล้องความต้องการชุมชน
ค. คำนึงถึงภูมิปัญญาท้องถิ่น
ง. เหมาะสมกับความก้าวหน้าด้าน
วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี
26. การจัดการศึกษาที่มีความยืดหยุ่น ในหลักสูตร
วิธีการ การประเมินผลและจุดมุ่งหมาย
ก. การศึกษาในระบบ
ข. การศึกษานอกระบบ
ค. การศึกษาตามอัธยาศัย
ง. การศึกษาเฉพาะทาง
27. ต่อไปนี้ ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้อง
ก. การศึกษาขั้นพื้นฐาน หมายความว่าการ
ศึกษาก่อนระดับอุดมศึกษา
ข. ผู้สอน หมายความว่า ครูและคณาจารย์ใน
สถานศึกษาระดับต่างๆ
ค. กระทรวง หมายความว่ากระทรวงการศึกษา
ง. ครู หมายความว่าบุคลากรวิชาชีพซึ่งทำ
หน้าที่หลักทางด้านการเรียนการสอนและ
ส่งเสริมการเรียนรู้ของผู้เรียนด้วยวิธีการ
ต่างๆ ในสถานศึกษาทั้งของรัฐและเอกชน
28. ข้อใดไม่ใช่หลักการจัดการศึกษาตาม
พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542
ก. เป็นการศึกษาตลอดชีวิตสำหรับประชาชน
ข. ให้สังคมมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษา
ค. การพัฒนาสาระและกระบวนการเรียนรู้
ให้เป็นไปอย่างต่อเนื่อง
ง. การจัดการศึกษาสำหรับบุคคลซึ่งมีความ
บกพร่องทางร่างกาย จิตใจ สติปัญญาอารมณ์ และสังคม
29. พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ ไม่ได้กำหนด
ให้หน่วยงานใดมีสิทธิจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน
ก. หน่วยงานหรือสถานศึกษาของรัฐและเอกชน
ข. มหาวิทยาลัยของรัฐและเอกชน
ค. องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
ง. องค์กรวิชาชีพ สถาบันศาสนา และสถาน
ประกอบการ
30. การจัดระบบโครงสร้างและกระบวนการจัด
การศึกษาให้ยึดหลักอะไรบ้าง
ก. มีเอกภาพด้านนโยบายหลากหลายในการ
ปฏิบัติ
ข. มีการกระจายอำนาจไปสู่เขตพื้นที่การศึกษา
และสถานศึกษา
ค. ระดมทรัพยากรจากแหล่งต่างๆ มาใช้ใน
การจัดการศึกษา
ง. ถูกทุกข้อ
31. ตามพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ ไม่ได้
ในเรื่องใด
ก. สิ่งอำนวยความสะดวกกำหนดสิทธิในการรับการศึกษาสำหรับคนพิการ
ข. สื่อ บริการ
ค. ความช่วยเหลืออื่นใด
ง. เงินอุดหนุนปัจจัยพื้นฐาน
32. จากข้อ 31 รัฐต้องให้ความช่วยเหลือเป็นกี่เท่า
ของเงินทุนด้านสื่อและวัสดุการศึกษาที่จัดสรรให้
แก่เด็กนักเรียนทั่วไปต่อคน
ก. ไม่เกิน 2 เท่า
ข. ไม่เกิน 3 เท่า
ค. ไม่เกิน 4 เท่า
ง. ไม่เกิน 5 เท่า
33. การจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานแบ่งได้เป็น 3 ระดับ
ยกเว้นข้อใด
ก. ระดับก่อนประถมศึกษา
ข. ระดับประถมศึกษา
ค. ระดับมัธยมศึกษา
ง. ระดับก่อนอุดมศึกษา
34. การจัดการศึกษาเพื่อมุ่งวางรากฐานเพื่อให้ผู้เรียน
ได้พัฒนาคุณลักษณะที่พึงประสงค์ทั้งด้านคุณธรรม
จริยธรรม ด้านความรู้ความสามารถขั้นพื้นฐาน
หมายถึงการจัดการศึกษาระดับใด
ก. ระดับก่อนประถมศึกษา
ข. ระดับประถมศึกษา
ค. ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น
ง. ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย
35. การจัดการศึกษาเพื่อพัฒนาผู้เรียนตามความถนัด
ความสนใจ ศักยภาพและความสามารถพิเศษเฉพาะ
ด้าน เพื่อเป็นพื้นฐานสำหรับการศึกษาต่อในระดับ
อุดมศึกษา
ก. ระดับประถมศึกษา
ข. ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น
ค. ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย
ประเภทสามัญศึกษา
ง. ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย
ประเภทอาชีวศึกษา
36. การจัดการศึกษาระดับประถมศึกษาโดยปกติ
ใช้เวลาเรียนกี่ปี
ก. 4 ปี ข. 6 ปี
ค. 9 ปี ง. 12 ปี
37. การนับอายุเด็กเพื่อเข้ารับการศึกษาภาคบังคับ
ในสถานศึกษาขั้นพื้นฐานให้นับตามข้อใด
ก. ครบเจ็ดปีในปีใดนับเด็กอายุย่างเข้าปีที่เจ็ด
ในปีนั้น
ข. นับตามปีงบประมาณ
ค. นับตามปีปฏิทิน
ง. ข้อ ก และ ค ถูกต้อง
38. การจัดการศึกษาระดับใดเป็นการจัดการศึกษา
เพื่อพัฒนาความรู้และทักษะในการประกอบอาชีพ
ให้เป็นกำลังแรงงานที่มีฝีมือหรือการศึกษาต่อระดับ
ในระดับอาชีพชั้นสูงต่อไป
ก. ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น
ข. ระดับมัธยมศึกษาตอนปลายประเภทสามัญศึกษา
ค. ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย
ประเภทอาชีวศึกษา
ง. ระดับที่ต่ำกว่าปริญญา
39. การจัดการศึกษาเพื่อวางรากฐานชีวิตและการเตรียมความพร้อมของเด็กทั้งร่างกายและจิตใจ
สติปัญญาอารมณ์ บุคลิกภาพและการอยู่ร่วมกันในสังคม
ก. การศึกษาระดับก่อนประถมศึกษา
ข. การศึกษาระดับประถมศึกษา
ค. การศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนต้น
ง. การศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย
40. หากเด็กจะเข้าเรียนการศึกษาภาคบังคับในปีการศึกษา 2551 จะต้องเป็นเด็กที่เกิดในปี พ.ศ.ใด
ก. 2541                       ข. 2542
ค. 2543                       ง. 2544




วันเสาร์ที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2561

สื่อและเทคโนโลยี

1. ความสำคัญของสื่อการเรียนการสอนตรงกันข้อใดมากที่สุด
ก. ช่วยให้ผู้สอนสะดวกสบาย
ข. ช่วยให้บทเรียนชัดเจนยิ่งขึ้น
ค. ช่วยลดเวลาสอนของครูให้น้อยลง
ง. ช่วยให้นักเรียนเรียนรู้บรรลุตามวัตถุประสงค์
2. การเขียนแผนการสอนที่เหมาะสมที่สุดจัดลำดับหัวข้ออย่างไร
ก. จุดประสงค์ ความคิดรวบยอด เนื้อหา กิจกรรม
ข. ความคิดรวบยอด จุดประสงค์ เนื้อหากิจกรรม
ค. จุดประสงค์ ความคิดรวบยอด กิจกรรม
ง. ความคิดรวบยอด จุดประสงค์ กิจกรรมเนื้อหา
3. ข้อความใดเป็นความหมายการประเมินผล
ก. สมควร อายุ 29 ปี
ข. สมชาย อยากเรียนวิศวะ
ค. สมหวัง สูง 160 เซนติเมตร
ง. สมเกียรติ สอบได้ 80 คะแนน
4. จุดมุ่งหมายของการวัดผลการศึกษาที่สำคัญที่สุด
ก. ตัดสินได้-ตก
ข. ปรับปรุงการวัดผล
ค. ปรับปรุงการเรียนการสอน
ง. ปรับปรุงหลักสูตรการเรียน
5. จุดมุ่งหมายเชิงพฤติกรรม คือจุดมุ่งหมายที่เป็นอย่างไร
ก. ระบุว่านักเรียนรู้อะไรบ้าง
ข. ระบุว่าพฤติกรรมจะเปลี่ยนไปอย่างไร
ค. ระบุว่านักเรียนจะมีเจตคติที่มีต่อวิชาที่สอน
ง. ระบุพฤติกรรมที่สังเกตและวัดได้ของนักเรียน
6. ข้อใดที่ไม่ใช่ลักษณะของจุดมุ่งหมายเชิงพฤติกรรม
ก. บวกลบเลขคู่และเลขคี่ได้
ข. อธิบายได้ว่าเลขคู่และเลขคี่ต่างกันอย่างไร
ค. ทำแบบฝึกหัดว่าด้วยเรื่องเลขคู่และเลขคี่ได้
ง. เข้าใจในความแตกต่างของเลขคู่และเลขคี่
7. เอด การ์ เดล จัดเอาประสบการณ์ที่เป็นรูปธรรมมากที่สุดไว้ตรงฐานของกรวย เพื่อแสดง
ให้เห็นว่าเป็นประสบการณ์ที่เป็นอย่างไร
ก. เป็นนามธรรมมากที่สุด
ข. จัดได้ง่ายที่สุด
ค. เป็นจริงมากที่สุด
ง. ทำให้เสียเวลาในเรียนน้อยที่สุด
8. ผู้เรียนจะสนใจและอยากเรียนมากขึ้นในเมื่อสิ่งที่เรียนนั้นเป็นอย่างไร
ก. มีความสวยงาม
ข. เคลื่อนไหวได้
ค. ผู้เรียนเคยพบเห็นมาแล้ว
ง. มีความหมายต่อผู้เรียน
9. ข้อใดเป็นการสอนที่ไม่ค่อยเหมาะสม
ก. สอนโดยวิธีแนะให้เด็กรู้จักตนเอง
ข. ให้เด็กมีส่วนรวมในการจัดกิจกรรม
ค. จัดกิจกรรมให้ทุกคนทำเหมือนกัน
ง. จัดให้มีกิจกรรมพัฒนาการของเด็ก
10. การสอนที่ดีคำนึงถึงอะไรเป็นสำคัญ
ก. วัย
ข. เพศ
ค. สิ่งแวดล้อม
ง. ความแตกต่างระหว่างบุคคล
11. การมีหลักและวิธีสอนที่ดีให้ประโยชน์ในเรื่องใด
ก. นักเรียนสนใจเรียน
ข. ประหยัดเวลาในการสอน
ค. นักเรียนเกิดความคิดริเริ่ม
ง. การเรียนการสอนที่มีประสิทธิภาพ
12. ข้อใดไม่ใช่จุดประสงค์ของการจัดบรรยากาศในห้องเรียน
ก. ความสวยงาม
ข. ส่งเสริมการเรียนรู้
ค. มีลักษณะคล้ายบ้านของตน
ง. ส่งเสริมการใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์
13. หลักการสำคัญที่สุดในการจัดห้องเรียนคืออะไร
ก. ความสะอาด
ข. ประโยชน์ใช้สอย
ค. ความเป็นระเบียบ
ง. การพักผ่อนหย่อนใจ
14. บรรยากาศในห้องเรียนหมายถึงอะไร
ก. การจัดตกแต่งห้องเรียน
ข. กิจกรรมการเรียนการสอน
ค. สิ่งแวดล้อมทั้งสิ้นรอบตัวเด็ก
ง. สิ่งของต่าง ๆ ที่มีอยู่ในห้องเรียน
15. ศูนย์ปฐมวัยเป็นการจัดการศึกษาประเภทใด
ก. การศึกษาพิเศษ
ข. การศึกษาส่งเคราะห์
ค. การศึกษานอกโรงเรียน
ง. การศึกษาก่อนระดับประถมศึกษา
16. พลศึกษาควรใช้การวัดผลวิธีใดบ้าง
ก. สังเกต
ข. การปฏิบัติ
ค. แบบทดสอบ
ง. ถูกทุกข้อ
17. กลุ่มสร้างเสริมลักษณะนิสัยการประเมินผลเน้นด้านใด
ก. ความรู้
ข. ความคิด
ค. การปฏิบัติ
ง. ทดสอบภาคปลายภาค
18. กลุ่มการงานพื้นฐานอาชีพจะประเมินผลการปฏิบัติได้ดีที่สุดจากอะไร
ก. ตรวจผลงาน
ข. ตรวจแบบฝึกหัด
ค. ตรวจข้อทดสอบ
ง. สัมภาษณ์
19. ในการจัดลำดับประสบการณ์ของเอดการ์เดลยึดถือหลักในข้อใด
ก. ลักษณะโครงสร้างของสื่อ
ข. ลักษณะความมุ่งหมายของการสอน
ค. ความต่อเนื่องระหว่างประสบการณ์จริงกับนามธรรม
ง. ความแตกต่างระหว่างบุคคล
20. ถ้าท่านสอนเด็กท่านจะใช้สื่อการสอนเพื่อเหตุผลในข้อใด
ก. ทำให้คุณภาพของการเรียนรู้ดีขึ้น
ข. ทำให้ผู้เรียนสนใจบทเรียนมากขึ้น
ค. ทำให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมในการเรียนมากขึ้น
ง. ทำให้สอนสบายขึ้น
21. ข้อใดเป็นอุปกรณ์ที่ให้ประสบการณ์แก่ผู้เรียนได้ถูกต้องที่สุด
ก. วัตถุของจริง
ข. วัตถุจำลอง
ค. ของตัวอย่าง
ง. ของเลียนแบบ
22. คอร์สแวร์ หมายถึงข้อใด
ก. เครือข่ายการศึกษา
ข. วิธีสอน
ค. หลักสูตรพัฒนาครู
ง. สื่อการเรียนการสอน.
23. การสอนเด็กเป็นรายบุคคลจะใช้ได้ดีเมื่อใด
ก. ชั้นเรียนมีขนาดเล็ก
ข. นักเรียนในชั้นอ่อนมาก
ค. ครูมีเวลามากพอที่จะทำ
ง. ถูกทั้ง 3 ข้อ
24. การสอนคณิตศาสตร์ เรื่องการบวกควรเริ่มอย่างไร
ก. ของจริง ภาพ สัญลักษณ์
ข. ภาพ สัญลักษณ์ ของจริง
ค. สัญลักษณ์ ภาพ ของจริง
ง. ของจริง สัญลักษณ์ ภาพ
25. การสอนภาษาอังกฤษในระดับประถมศึกษามีจุดประสงค์ที่สำคัญเพื่ออะไร
ก. เพื่อให้สามารถใช้พจนานุกรมได้
ข. เพื่อให้เข้าใจความหมายและสามารถใช้คำศัพท์ได้
ค. เพื่อเพิ่มพูนประสบการณ์ทางภาษา
ง. เพื่อให้มีความรู้และทักษะพื้นฐานทางภาษาอังกฤษ
26. แบบทดสอบสัมฤทธิผล ( Achievement test ) ที่สำรวจพื้นฐานของความรู้โดยทั่วไป
คือข้อใด
ก. Mastery test
ข. Survey test
ค. Diagnostic test
ง. Basic test
27. การประเมินผลการเรียนมีความหมายตรงกับข้อใด
ก. การทดสอบความรู้ของนักเรียน
ข. การวัดคุณลักษณะที่พึงประสงค์
ค. การตรวจสอบผลการปฏิบัติงาน
ง. การพิจารณาให้ระดับผลการเรียน
28. จุดมุ่งหมายที่สำคัญของการวัดและประเมินผลการเรียนคือข้อใด
ก. ตัดสินผลการเรียน
ข. ปรับปรุงการเรียนการสอน
ค. ค้นหาข้อบกพร่องของนักเรียน
ง. แจ้งผลการเรียนให้ผู้ปกครองทราบ
29. ข้อใดเป็นการประเมินผลย่อยระหว่างภาคเรียน
ก. Formal Evaluation
ข. Informal Evaluation
ค. Formative Evaluation
ง. Summative Evaluation
30. การประเมินผลระหว่างภาคเรียนมีจุดมุ่งหมายเพื่ออะไร
ก. ตรวจสอบความรู้พื้นฐานของผู้เรียน
ข. ตรวจสอบพัฒนาการของผู้เรียน
ค. ตัดสินผลการเรียน
ง. ปรับปรุงการเรียนการสอน


เฉลย
1.ง 2.ก 3.ง 4. ค 5.ง 6.ง 7.ค 8.ง 9.ค 10.ง 11.ง 12.ก 13.ข 14.ค 15.ง
16.ง 17.ค 18.ก 19.ค 20.ก 21.ก 22.ง 23.ง 24.ก 25.ง 26.ข 27.ง 28.ข 29.ค 30.ข

วันพุธที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2561

งานธุรการและระดมทรัพยากร

1. งานธุรการมีความสำคัญต่อการบริหารงานของโรงเรียนข้อใด
ก. สนับสนุนงานอื่น ๆ ให้ดำเนินการได้ราบรื่น
ข. เป็น เครื่องชี้วัดความสามารถของผู้บริหาร
ค. เป็นการสร้างความเชื่อถือไว้วางใจแก่บุคคลทั่วไป
ง. ถูกทุกข้อ
2. ผู้ที่มีอำนาจและหน้าที่ในการลงชื่ออยู่กำกับหนังสือประทับตราแทนการลงชื่อ
ก. หัวหน้าส่วนราชการระดับแผนก
ข. หัวหน้าส่วนราชการระดับกอง
ค. หัวหน้าส่วนราชการระดับกรม
ง. หัวหน้าส่วนราชการระดับกระทรวง
3. หนังสือที่ต้องปฏิบัติเร็วกว่าปกติเร็วกว่าปกติเท่าที่จะทำได้คือ
ก. ด่วนที่สุด
ข. ด่วนมาก
ค. ด่วน
ง. หนังสือปกติ
4. ในการจัดเก็บหนังสือระหว่างปีของโรงเรียนเรื่องการจัดทำหลักสูตรท้องถิ่น ควรเก็บไว้
ในหมวดใด
ก. หมวดงานการนักเรียน
ข. หมวดงานธุรการ
ค. หมวดงานวิชาการ
ง. หมวดระเบียบ
5. หนังสือที่ได้ปฏิบัติงานเสร็จสิ้นแล้วและเป็นคู่สำเนาที่มีต้นเรื่องจะค้นได้จากที่อื่น จะต้องเก็บ
อย่างน้อยเป็นเวลานานเท่าใด
ก. ไม่น้อยกว่า 10 ปี
ข. ไม่น้อยกว่า 5 ปี
ค. ไม่น้อยกว่า 1 ปี
ง. ต้องเก็บไว้ตลอดไป
6. ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้องในเรื่องงานทะเบียนและการรายงาน
ก. งานทะเบียนและการรายงานจำเป็นจะต้องปฏิบัติควบคู่กันไป
ข. งานทะเบียนเป็นงานอิสระไม่เกี่ยวข้องกับงานใดก็ได้
ค. การรายงานต้องอาศัยงานทะเบียนเป็นหลักจึงจะ
ง. งานทะเบียนและการรายงานไม่มีความสัมพันธ์และเกี่ยวข้องกันเลย
7. ข้อใดคืองานทะเบียนที่เกี่ยวข้องกับบุคลากรของโรงเรียน
ก. สมุดหมายเหตุรายวัน
ข. ระเบียนสะสม
ค. แฟ้มประวัติ
ง. การปฏิบัติและการดำเนินงาน
8. หนังสือราชการมีกี่ชนิด
ก. 4 ชนิด
ข. 5 ชนิด
ค. 6 ชนิด
ง. 7 ชนิด
9. ข้อใดไม่ใช่การการรักษาหนังสือราชการ
ก. การเก็บระหว่างปฏิบัติ
ข. การเก็บเมื่อปฏิบัติเสร็จแล้ว
ค. การเก็บไว้เพื่อใช้ในการวิจัย
ง. การเก็บไว้เพื่อใช้ในการตรวจสอบ
10. ข้อใดเป็นกำหนดเวลาที่เจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบจะทำการสำรวจหนังสือที่ครบอายุการเก็บรั
เพื่อขอทำลายในแต่ละปี
ก. ภายใน 30 วัน หลังจากวันสิ้นปีปฏิทิน
ข. ภายใน 60 วัน หลังจากวันสิ้นปีปฏิทิน
ค. ภายใน 30 วัน หลังจากวันสิ้นปีปฏิทิน
ง. ภายใน 120 วัน หลังจากวันสิ้นปีปฏิทิน
11. ข้อใดไม่ใช่ประโยชน์โดยตรงของอาคารสถานที่โรงเรียน
ก. เป็นที่ประกอบกิจกรรมการเรียนการสอนของโรงเรียน
ข. เป็นที่เก็บวัสดุอุปกรณ์ต่าง ๆ ของโรงเรียน
ค. เป็นที่ประกอบกิจกรรมการบริหารโรงเรียน
ง. เป็นหน่วยเลือกตั้งของชุมชน
12. สถานที่ของโรงเรียนต่อไปนี้ ข้อใดจัดอยู่ในประเภทอาคารเรียน
ก. ส้วม
ข. โรงอาหาร
ค. ห้องวิทยาศาสตร์
ง. เรือนเพาะชำ
13. การจัดเวรยามดูแลอาคารสถานที่ของโรงเรียนอยู่ในขอบข่ายงานใด
ก. การควบคุมดูแลอาคารสถานที่
ข. การวางแผนงาน
ค. การดำเนินงานตามแผน
ง. การประเมินผลการใช้อาคารสถานที่
14. ในการวางแผนเรื่องอาคารสถานที่ ขั้นตอนใดสำคัญที่สุด
ก. การศึกษาสภาพปัจจุบันปัญหาความต้องการ
ข. การวางแผน
ค. การดำเนินงานตามแผน
ง. การวัดและการประเมินผล
15. ข้อใดมีส่วนช่วยให้การดำเนินงานอาคารสถานทีของโรงเรียนเป็นไปโดยสะดวกและราบรื่
มากที่สุด
ก. การควบคุมงานก่อสร้างอาคารเรียนอย่างเข้มงวดรัดกุมที่สุด
ข. การปลูกฝังให้บุคลากรและบุคคลในชุมชนมีความรู้สึกเป็นเจ้าของและหวงแหนโรงเรียน
ค. ความเข้มงวดกวดขันในการควบคุมดูแลอาคารสถานที่ให้เป็นไปตามระเบียบอย่างเคร่งครัด
ง. การแบ่งหน้าที่ให้นักเรียนทุกคนมีส่วนร่วมรับผิดชอบในการดูแลอาคาร
16. สิ่งแวดล้อมที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ ได้แก่ข้อใด
ก. วัฒนธรรม
ข. พลังงาน
ค. การเมือง
ง. การปกครอง
17. ข้อใดเป็นการจัดสิ่งแวดล้อมที่ดีในโรงเรียนคือข้อใด
ก. จัดให้มีแสงสว่างในห้องเรียนอย่างเพียงพอ
ข. จัดน้ำสะอาดให้นักเรียนได้ดื่มตลอดไป
ค. จัดให้มีการระบายอากาศในห้องเรียนอย่างเหมาะสม
ง. ถูกทุกข้อ
18. การป้องกันอุบัติเหตุทางกีฬาในโรงเรียนคือข้อใด
ก. นักเรียนเล่นกีฬาโดยขาดความรู้และทักษะที่ถูกต้อง
ข. นักเรียนไม่ได้ประมาณความสามารถและกำลังของตนเอง
ค. นักเรียน เรียนหรือเล่นโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์
ง. นักเรียนได้รับการฝึกให้สามารถป้องกันหรือช่วยเหลือตนเอง
19. สิ่งต่อไปนี้ข้อใดข้อใด น่าจะ ปลอดภัยที่สุด
ก. พื้นห้องที่ขัดมันมาก ๆ
ข. ราวบันได มุมโตที่กลมบน
ค. เสาบาสเกตบอลที่ไม่ได้ห่อด้วยกระสอบป่าน
ง. สนามเป็นรุมเป็นบ่อ
20. ข้อใดเป็นข้อมูลที่ดีที่สุดในการพัฒนาชุมชน
ก. ข้อมูลที่สรุปจากปีก่อน ๆ
ข. ข้อมูลที่คณะครูรวบรวม
ค. ข้อมูลที่สำรวจใหม่หลาย ๆ วิธี
ง. ข้อมูลจากการสัมมนาผู้ปกครอง
21. วิธีการวิเคราะห์ชุมชนที่ประสบความสำเร็จมาากที่สุด ควรเน้นด้านใดเป็นหลัก
ก. วิสัยทัศน์ชุมชน
ข. แหล่งทรัพยากร
ค. ความต้องการของชุมชน
ง. หลักสูตรและนโยบายรัฐ
22. การจัดการศึกษาของโรงเรียนเพื่อพัฒนาชุมชนจะเน้นด้านใด
ก. การพัฒนาตนเอง
ข. การใช้ทรัพยากรและเทคโนโลยี
ค. การพัฒนาระบบข้อมูล สารสนเทศ
ง. การพัฒนาบุคลากรให้มีความรับผิดชอบ
23. เทคนิคในการสร้างความสัมพันธ์กับชุมชนคือข้อใด
ก. มนุษยสัมพันธ์
ข. การวางแผน
ค. การตัดสินใจ
ง. การประสานงาน
24. กิจกรรมสร้างความสัมพันธ์กับชุมชนในโรงเรียนที่ใช้งบประมาณน้อยแต่มุ่งหวังผลสูง
คือข้อใด
ก. ฝึกอาชีพ
ข. แข่งขันกีฬา
ค. สหกรณ์
ง. ทัศนศึกษาชุมชน
25. บทบาทของผู้บริหารโรงเรียนในการสร้างความสัมพันธ์กับชุมชน คือข้อใด
ก. การสร้างศรัทธาของโรงเรียน
ข. การจัดกิจกรรมสร้างความสัมพันธ์
ค. การพัฒนาอาคารสถานทีให้ร่มรื่น
ง. การเสริมสร้างเกียรติและชื่อเสียงของโรงเรียน
26. การสร้างความสัมพันธ์กับชุมชน ผู้บริหารต้องศึกษาแผนพัฒนาการศึกษาเพื่อประโยชน์ใ
สิ่งใด
ก. กำหนดขั้นตอนดำเนินงาน
ข. กำหนดโครงสร้างของการบริหาร
ค. กำหนดภารกิจของการจัดการศึกษา
ง. กำหนดแนวทางในการจัดการศึกษา
27. บุคคลากรในโรงเรียนทีมีส่วนสนับบสนุนการสร้างความสัมพันธ์กับชุมชนได้ดีที่สุด
ก. ผู้บริหาร
ข. ครู
ค. นักการภารโรง
ง. ทุกคนช่วยกัน
28. การสร้างวิสัยทัศน์ในการสร้างความสัมพันธ์กับชุมชนจะเป็นประโยชน์สำหรับผู้บริหาร
ในด้านใด
ก. เห็นความสำคัญของชุมชนมากขึ้น
ข. ทราบทรัพยากรในชุมชน
ค. เห็นความสำคัญของชุมชนที่ร่วมบริหาร
ง. เห็นว่าชุมชนเป็นปัจจัยในการสร้างเจริญของโรงเรียน
29. การบริหารงานความสัมพันธ์กับชุมชน จำเป็นต้องวิเคราะห์ชุมชนด้วยจุดประสงค์ใด
ก. ลดงบประมาณทางราชการ
ข. ทดแทนงบประมาณ
ค. สำรวจหาทรัพยากรในชุมชน
ง. บริหารโรงเรียนให้เป็นศูนย์พัฒนา
30. ทรัพยากรในชุมชนมีความสำคัญต่อผู้บริหารโรงเรียนในด้านใด
ก. สร้างความร่วมมือ
ข. ทดแทนงบประมาณ
ค. ชุมชนร่วมรับผิดชอบ
ง. ชุมชนมีทรัพยากร



เฉลย
1. ก                 2.ข                     3. ข
4. ค                 5. ค                    6.ง
7. ค                 8.ค                     9. ค
10.ข                11.ง                   12.ค
13.ก                 14.ค                  15.ข
16. ข                17. ง                   18.ง
19.ข                 20.ค                   21.ค
22.ก                23.ก                     24.ง
25.ข                26.ง                      27.ง
28.ง                29.ค                     30.ก

พรบ.การศึกษา 42

1. พรบ.การศึกษาแห่งชาติ เป็นไปตามบทบัญญัติ ใน รัฐธรรมนูญพ.ศ. 2540 มาตราใด ก. 29 ข. 40 ค. 50 ง. 81 2. พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติจัดเ...